พันธมิตรฯออกแถลงการณ์ปฏิเสธกลเกม แม้ว ยุบสภาหนีผิด

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2549 11:32 น.

เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 3/2549 ปฏิเสธการยุบสภาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุเป็นการใช่เล่ห์กลเพื่อหนีความผิด ทำให้ปัญหาชาติลุกลามบานปลาย ยืนยันให้ ทักษิณ ลาออกสถานเดียว ดังรายละเอียด

แถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 3/2549

เรื่อง

ปฏิเสธเกมยุบสภาเพื่อซื้อเวลา หนีปัญหาและความผิด

นำชาติสู่กับดักไร้ทางออก

พี่น้องประชาชนไทยที่เคารพ

ตามที่องค์กรประชาธิปไตยต่างๆ ครูบาอาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ได้เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไขสถานเดียว โดยไม่ได้มีข้อเรียกร้องให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี หรือยุบสภาแต่ประการใด

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2/2549 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 ในเวลา 13.00 น. เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาในเวลา 20.00 น.ในวันเดียวกันนั้น

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงมีมติยืนยันไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงกับแนวทางการยุบสภา โดยใช้ข้ออ้างว่าเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งรุนแรงและโยนอำนาจกลับให้ประชาชนตัดสินใจ

ข้ออ้างดังกล่าวเป็นเพียงคำแก้ตัวที่ไม่มีเหตุผลรองรับ

มิหนำซ้ำยังจะเป็นหนทางที่นำไปสู่การขยายวงปัญหาให้ลุกลามบานปลาย นำประเทศไทยสู่กับดักวังวนที่ไม่มีทางออก ย้อนกลับสู่วงจรของวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และจริยธรรมที่รุนแรงยิ่งขึ้น

การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่เป็นกติกาหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยก็จริง แต่ทว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนั้น จะต้องวางอยู่บนโครงสร้างของกลไกและกติกาของสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง

มิใช่กติกาที่ซ่อนเล่ห์เหลี่ยมแอบแฝง รู้เห็นเป็นใจเอื้อให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบเสียเปรียบโดยไม่เป็นธรรม

วิกฤตที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ เป็นวิกฤตเชิงโครงสร้าง

ฝ่ายบริหารที่แอบอ้างความชอบธรรมจากการเลือกตั้ง ได้เข้าไปแทรกแซงและทำลายกลไกตรวจสอบถ่วงดุล ตลอด 5 ปีที่ผ่านมานี้ประเทศไทยมีระบอบประชาธิปไตยเพียงแต่ในนามเท่านั้น

หากปล่อยให้สังคมไทยถูกเผด็จการในเสื้อคลุมนักเลือกตั้งแอบอ้างชักจูงด้วยถ้อยคำง่าย ๆ เช่นคำว่า ขอโยนอำนาจการตัดสินใจคืนสู่ประชาชนในการตัดสินใจเลือกตั้งใหม่แต่ยังเพิกเฉยไม่มีการปรับปรุงกฎ กติกา อุดช่องโหว่ และขจัดเหลือบไรหรืออำนาจแอบแฝงที่ฝังอยู่ในกลไกต่างๆ เสียก่อน

ทั้งๆ ที่โดยแท้จริงแล้วอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยทุกวัน ทุกเวลา ไม่ใช่เฉพาะวันหย่อนบัตรในวันเลือกตั้งทั่วไปเท่านั้น

ก็เท่ากับว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะยิ่งนำสังคมไทยถลำเข้าสู่กับดักของวิกฤตทางการเมืองแบบเดิม อันเป็นระบบการเมืองที่ไม่มีกลไกตรวจสอบถ่วงดุล เหนี่ยวรั้ง ยับยั้งการประพฤติมิชอบ ทุจริตฉ้อฉล เป็นสังคมที่ไม่มีกลไกตรวจสอบและยับยั้งการออกนโยบายสาธารณะที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือนำพาประเทศผิดทิศทาง เป็นสังคมประชาธิปไตยที่ขาดหลักจริยธรรมมากำกับ

นอกจากนั้นแล้ว การยุบสภาครั้งนี้ยังเป็นการยุบสภาที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และประเพณีในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งโดยปกติแล้วรัฐบาลจะยุบสภาภายใต้เงื่อนไขอย่างน้อย 2 ประการ ประการหนึ่ง รัฐบาลแพ้การลงคะแนนเสียงในสภา อีกประการหนึ่ง เกิดความขัดแย้งหาทางออกไม่ได้ภายในสภา แต่สถานการณ์ในขณะนี้หาได้มีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยุบสภา เพียงเพื่ออาศัยช่องทางตามกฎหมายปกปิดความผิดของตัวเองเป็นหลักสำคัญ ดังนั้นการยุบสภาในครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาให้กับประเทศ มิหนำซ้ำจะเป็นการซ้ำเติมปัญหายิ่งขึ้น

แนวทางแก้ปัญหาวิกฤตการณ์เชิงโครงสร้างครั้งนี้ จะต้องเริ่มจากการขจัดต้นตอของปัญหา ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นตัวการใช้อำนาจบิดเบือนทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยละเมิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพียงสถานเดียวเท่านั้น

องค์กรประชาธิปไตยต่างๆ ครูบาอาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน รวมทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่า การเลือกแนวทางการยุบสภาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เพื่อหนีปัญหา และหนีความผิด ใช้ช่องทางของกติกาที่มีอยู่เพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับตัวเอง ในลักษณาการใกล้เคียงกับ การใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี

การยุบสภาครั้งนี้ ก็เพื่อหวังจะใช้กลไกทรัพยากรและอำนาจแฝงที่มีอยู่ใช้การเลือกตั้งเพื่อฟอกความผิดของตัวเอง กลับคืนมาสู่วงจรอำนาจเพื่อสร้างวิกฤตการณ์รอบใหม่ที่รุนแรงไร้ทางออกยิ่งไปกว่าเดิม

องค์กรประชาธิปไตยต่างๆ ครูบาอาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน รวมทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคยปฏิเสธแนวทางการยุบสภามาก่อนหน้านี้แล้ว ขอยืนยันปฏิเสธแนวทางการยุบสภาที่ซ่อนเล่ห์กลของผู้ร้ายหนีความผิด มิหนำซ้ำจะยิ่งทำให้ปัญหาของชาติลุกลามทวีความรุนแรงขึ้นเป็นหลายทบเท่า

เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงขององค์กรประชาธิปไตยต่างๆ ครูบาอาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน พวกเราขอยืนยันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข เพียงสถานเดียว เพื่อให้เกิดกระบวนการปฏิรูปการเมืองครั้งที่ 2 ที่มาจากพลังสมานฉันท์ของประชาชนทุกภาคส่วน สถาปนาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขที่แท้จริงกลับคืนมาอีกครั้ง

พวกเราขอเรียกร้องให้ องค์กรประชาธิปไตยต่างๆ ครูบาอาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน และพรรคการเมืองทุกพรรค ปฏิเสธการเลือกตั้งที่แอบแฝงเล่ห์ทุจริตครั้งนี้

อีก 29 ชั่วโมงข้างหน้า วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป พบกันที่ท้องสนามหลวง

ด้วยจิตคารวะ

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

25 กุมภาพันธ์ 2549

เวลา 11.00 น.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2549 12:10 น.


กลุ่มพันธมิตรประชาชนฯ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ยืนยันจุดยืนให้ ทักษิณ ลาออกสถานเดียวโดยไม่มีเงื่อนไข ย้ำการยุบสภาเป็นเพียงการฟอกตัวเองเพื่อหนีความผิด เรียกร้องให้ทุกพรรค และประชาชนทุกกลุ่มปฏิเสธการเลือกตั้งที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมของโจรร้าย ชุมนุมสำแดงพลังที่ท้องสนามหลวง 26 ก.พ.นี้

วันนี้ (25 ก.พ.) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ปฏิเสธการใช้เล่ห์เหลี่ยมยุบสภาหนีความผิด โดยยืนยันเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ อีกทั้งเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือปัญหาของบ้านเมือง จะนำพาบ้านเมืองไปสู่กับดักที่หาทางออกไม่ได้

ในการแถลงที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ของคณะกรรมการพันธมิตรประชาชนฯ ที่ประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสุริยะใส กตะศิลา ได้ยืนยันร่วมกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือสาเหตุของปัญหาของชาติทุกอย่าง ดังนั้น การยุบสภาก็เปรียบเสมือนการใช้เล่ห์เหลี่ยมของโจรร้ายเพื่อหลบหนีความผิดเท่านั้นเอง

กลุ่มพันธมิตรประชาชนฯ ได้เรียกร้องให้ประชาชน และพรรคการเมืองปฏิเสธการยุบสภาในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นวิธีการฟอกความผิดให้กับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น และขอให้ทุกฝ่ายรวมพลังกันเข้าร่วมชุมนุมแสดงพลังอย่างพร้อมเพรียงกันที่ท้องสนามหลวง ในวันอาทิตย์ ที่ 26 ก.พ.นี้

นายสมศักดิ์ ได้ชี้แจงตอบโต้ข้อกล่าวหาของรัฐบาลที่ระบุว่า พล.ต.จำลองพาคนไปตายในช่วงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬว่า ในฐานะที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ชุมนุมในครั้งนั้นยืนยันว่ารัฐบาลบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสี เพราะในการชุมนุมวันที่ 18 พ.ค.2535 พล.ต.จำลอง ถูกจับกุมตั้งแต่เวลา 14.49 น. แต่การยิงเกิดขึ้นจากทหารในเวลาตอนเย็นเป็นต้นไป

ด้าน นายสนธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า การชี้ความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการใช้กฤษฎีกาเลือกตั้งว่าสามารถทำได้ เพราะเป็นสิทธิของประชาชนตราบใดที่ไม่ได้กล่าวสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคอื่น อีกทั้งก็เป็นการประกาศต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ มาอย่างต่อเนื่องอย่างชัดเจน แต่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมายุบสภาเสียเอง อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นว่ามีความผิดก็พร้อมให้ดำเนินคดี