ไอซีทีทุ่ม3ล.สร้างเว็บไซต์ สู้ ทรูทักษิณ

พล.อ.สุรยุทธ์ได้หารือกับนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ภายหลังการหารือนายสิทธิชัยเปิดเผยว่า เข้าพบนายกฯเพื่อรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานของกระทรวงในส่วนของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็นการอัพเดทข้อมูลในช่วงเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ยังได้ขออนุมัติการจัดงบประมาณจากหน่วยงานของกระทรวงไอซีที

ไปสนับสนุนนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในการทำเว็บไซต์ของรัฐบาลที่จะตั้งขึ้นใหม่เพื่อชี้แจงข้อมูลข้อกล่าวหาจากฝ่ายขั้วอำนาจเก่า ประชาชนจะได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง เว็บไซต์ของรัฐบาลมีไว้ชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ได้ไปด่าใคร ซึ่งตนจะไปของบจากทีโอที กสท และสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (sipa) เพื่อสนับสนุนนายธีรภัทร์ คิดว่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ก็น่าจะพอ

พล.อ.สุรยุทธ์ได้หารือกับนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ภายหลังการหารือนายสิทธิชัยเปิดเผยว่า เข้าพบนายกฯเพื่อรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานของกระทรวงในส่วนของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็นการอัพเดทข้อมูลในช่วงเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ยังได้ขออนุมัติการจัดงบประมาณจากหน่วยงานของกระทรวงไอซีทีไปสนับสนุนนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในการทำเว็บไซต์ของรัฐบาลที่จะตั้งขึ้นใหม่เพื่อชี้แจงข้อมูลข้อกล่าวหาจากฝ่ายขั้วอำนาจเก่า ประชาชนจะได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง

เว็บไซต์ของรัฐบาลมีไว้ชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ได้ไปด่าใคร

ซึ่งตนจะไปของบจากทีโอที กสท และสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (sipa) เพื่อสนับสนุนนายธีรภัทร์ คิดว่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ก็น่าจะพอ โดยตนจะนำเสนอต่อประธานบอร์ดแต่ละแห่งพิจารณาโดยเร็วต่อไป

นายสิทธิชัยกล่าวว่า ได้หารือกับนายธีรภัทร์เรื่องการทำเว็บไซต์ใหม่ไปบ้างแล้ว

ยอมรับว่าตนไม่มีฝีมือพอ ไม่ถนัด และไม่รู้จักมืออาชีพที่จะคอยมามอนิเตอร์ ตอบโต้ผ่านเว็บไซต์ และที่ผ่านมาเว็บไซต์ของกระทรวงไอซีทีที่มีอยู่แล้วทำไปก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ไม่ได้ รับความสนใจเท่าที่ควร เช่น เว็บไซต์ซุบซิบดอทคอม จึงให้นายธีรภัทร์เป็นผู้รับผิดชอบจัดหาทีมงานและเป็นคนทำคอนเทนต์ 

“เพราะมันไปเปลี่ยนความคิดของคนไม่ได้ คนที่เข้าไปเชียร์ยังไงเขาก็เชียร์ คนไม่ชอบเข้าไปดูเขาก็ไม่ชอบ จึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปปิดกั้น อยากจะเปิดก็เปิดไป กระทรวงไอซีทีคงจะติดตามดูเนื้อหาของข้อมูลในเว็บไซต์ว่ามีอะไรที่กระทบด้านความมั่นคงของชาติหรือไม่ ถ้ากระทบก็ต้องขออำนาจจากศาลสั่งปิดหรือสั่งบล็อก รวมทั้งดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย แต่หากข้อมูลไปพาดพิงถึงบุคคลอื่นทำให้ เขาเสียหาย ก็ให้บุคคลนั้นๆไปใช้สิทธิฟ้องร้องปกป้องสิทธิ หรือฟ้องหมิ่นประมาทเอาเอง” รมว.ไอซีทีกล่าว