ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวของม็อบในครั้งนี้ นายกฯคิดว่ามีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ก็คงจะต้องฟังข้อมูลต่างๆ เรายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในส่วนนี้คงต้องฟังว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง มีผู้ที่ให้การสนับสนุนอย่างไรบ้าง เมื่อถามต่อว่า ที่มีการมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้การสนับสนุนเป็นผู้สนับสนุนม็อบให้เคลื่อนไหว พล.อ. สุรยุทธ์ตอบว่า ก็เป็นเรื่องที่คาดคะเนกัน พ.ต.ท.ทักษิณก็สัมภาษณ์ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไป
รัฐบาลจะต้องพิจารณาขั้นตอนก่อนการลงมือทำอะไร
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่มีนักข่าวได้รับบาดเจ็บจากเหตุเมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค.ด้วยว่า ก็ให้นักข่าวที่บาดเจ็บไปแจ้งความได้ และยืนยันไม่อยากเห็นคนไทยต้องใช้ความรุนแรง จนกระทั่งทำให้เกิดปัญหาถึงขั้นเสียชีวิต โดยพยายามจะคุมสถานการณ์ให้ได้ ส่วนการจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ คงอยู่ที่สถานการณ์ รัฐบาลจะต้องพิจารณาในแต่ละขั้นตอนว่า ควรจะใช้อะไรมากน้อยแค่ไหนอย่างไร อย่างที่พูดกันในขณะนี้ว่าจะใช้ ยาอ่อนยาแรงอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาสถานการณ์ คงไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้อย่างนี้อย่างเดียว จะใช้ยาแก้ ปวด อย่างเดียวหรือใช้ยาแดงทาแผลอย่างเดียวคงไม่ได้
พล.อ.สุรยุทธ์ปฏิเสธไม่ได้ตบตาคนดู
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ถึงที่สุดแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ว่าขณะนี้ 2 ฝ่ายกำลังเกี้ยเซี้ยะกันตามที่หลายฝ่ายมองโดยที่ฝ่ายหนึ่งต้องการจะออกกฎหมายควบคุม ขณะที่อีกฝ่ายคอยยั่วยุ ประชาชนจึงมองว่ารัฐบาลไม่ยอมทำอะไรเลย พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า จะให้รัฐบาลไปทำอะไรครับ อย่างที่ทำตอนนี้ก็ถูกต้องทำนองคลองธรรมอยู่แล้ว หากว่าท่านอยากจะมาเป็นผู้บริหารก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในความคิดของผมเองเราก็ดูว่าเราได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว เราคงไม่ได้ เกี้ยเซี้ยะ แต่เราอยากเห็นสถานการณ์ที่มีความสงบมากกว่าสถานการณ์ที่มีความรุนแรง
นายกฯ ให้ 1 ล. ดูแล ตร.เจ็บ
สำหรับอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ รับบาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุม โดยเมื่อสายวันเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวภายหลังที่เข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม และได้รับบาดเจ็บ ได้มอบเงินให้จำนวน 1 ล้านบาทเพื่อไปดูแลสวัสดิการตำรวจ เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ค. ไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองกำกับการ ปจ.บก.สปพ. ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 46 คน วันนี้ จะไปเยี่ยมตำรวจที่บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และที่ออกจากโรงพยาบาลจำนวน 206 คน ส่วนที่เหลือจะให้เป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบเพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจ
ย้ำห้าม นปก.ออกนอกพื้นที่
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวอีกว่า เรื่องออกหมายจับแกนนำกลุ่ม นปก.นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งอะไรเป็นพิเศษ แต่ได้ให้เป็นนโยบายมาดูแลบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยให้ได้ การรักษาความสงบภายในเป็นหน้าที่ของตำรวจ นายกฯได้สั่งให้ดูแลและใช้วิจารณญาณให้ดี ส่วนเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ให้ข้อมูลไปแล้วว่าต่อไปนี้ผู้ชุมนุมจะต้องอยู่ที่ท้องสนามหลวงเท่านั้น ห้ามออกมาข้างนอกเด็ดขาด ขอย้ำอีกว่า ต่อไปนี้จะไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนออกจากสนามหลวง ถ้าจะชุมนุมได้ที่ท้องสนามหลวงเท่านั้น ถ้าออกมาถือว่าเจตนา และจงใจ ทำไมต้องมาที่หน้า ทบ.ด้วย ในเมื่ออยากชุมนุมจัดให้แล้วทำไมต้องแหกต้องฝ่าฝืนด้วย จะมาอ้างสิทธิอันชอบธรรมไม่ได้ เพราะมันสร้างความเดือดร้อนผู้อื่น
บิ๊ก ตร.เยี่ยม-ให้กำลังใจลูกน้อง
ในวันเดียวกัน พล.ต.ท.นิพนธ์ ศิริวงศ์ ผบช.ตชด. ไปเยี่ยมอาการตำรวจตระเวนชายแดนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุม เมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค. ประกอบด้วย ร.ต.อ.สุธี พุฒตาล รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระ ด.ต.ปิยะภัทร โกมลพันธ์ รักษาตัวที่โรงพยาบาลรามา จ.ส.ต.บุญถิ่น เหล็กค้าน รักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเฉียว และ จ.ส.ต.อาทิตย์ พิมพ์โคตร รักษาตัวที่โรงพยาบาลกลาง ด้าน พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. ก็เดินทางไปเยี่ยมตำรวจคอมมานโด ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่ม นปก.ที่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม (ปพ) บก.ป. โดยมี พ.ต.อ.ชัยทัต บุญขำ ผกก.ปพ.บก.ป. รอต้อนรับพร้อมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย โดย พล.ต.ท. มนตรี จำรูญ ได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้เป็นกำลังใจ ก่อนเดินทางกลับ
“ป๋า” ส่งของเยี่ยม-ชื่นชม ตร.
ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ก.ค. พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ เกรียงศักดิ์พิชิต รองผู้บังคับการหัวหน้าส่วนวิชาสืบสวน สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการศึกษา (รอง ผบก.สบพ.บช.ว.) เป็นผู้แทน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นำกระเช้าผลไม้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ต.ท.พันธกานต์ วัฒนวรางกูร และ ส.ต.ท.สุรินทอง แก้วคูณ ผบ.หมู่ กก.ปพ. บก.ป. ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
ประธานองคมนตรีชื่นชมทุกคนทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว
โดย พ.ต.อ.ขจรศักดิ์กล่าวว่า ประธานองคมนตรีฝากขอบคุณและชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ แม้ว่าทุกคนไม่อยากให้มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เท่าที่สอบถามจากทั้งสองนายพบว่ามีกำลังใจที่ดี และยังบอกกับตนว่าเจอเหตุการณ์ที่หนักหนาสาหัสกว่านี้มาแล้ว ส่วนเรื่องที่ พล.อ.เปรมอยากจะฝากถึงผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ก็คือ ให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนายอย่างใกล้ชิด เพราะท่านเองไม่ได้มีอำนาจหน้าที่จะสั่งการได้โดยตรง นอกจากนี้ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ตนก็จะเดินทางไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บและยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ อีก 1 นาย
ทหารมอบกระเช้าดอกไม้ปลอบใจตำรวจ
ส่วนที่ บช.น. เวลา 15.30 น. พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. เรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบก.ขึ้นไปที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง พล.ต.ชาย คำวงษา รองแม่ทัพภาคที่ 1 ตำรวจสันติบาล และหน่วยข่าวกรอง เพื่อประเมินสถานการณ์ด้านการข่าวและติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ชุมนุม โดย พล.ต.ชายพร้อมคณะได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้กับ พล.ต.ท.อดิศร เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจตำรวจ ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ปะทะกับผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
เหตุที่ไม่ออกหมายจับเพราะเป็นการให้เกียรติ
จากนั้น พล.ต.ท.อดิศรกล่าวว่า พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนรายงานมาว่า ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ศาลได้นัดให้แกนนำทั้ง 9 คน ไปรายงานตัวที่ศาลเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ตำรวจขอหมายจับไปแล้ว แต่ทางศาลเห็นว่าเพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย จึงดำเนินการสอบถามแกนนำที่เข้ารับการไต่สวนให้เข้ารายงานตัว จะให้เกียรติกันมากกว่าใช้กำลังจับกุม แต่ถ้าทั้ง 9 คนไม่มารายงานตัว และศาลอนุมัติหมายจับ ตำรวจคงต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และดำเนินการด้วยความรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนที่จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมกับบุคคลอื่นๆอีกนั้น หากสอบสวนมีพยานหลักฐานพาดพิงถึงแกนนำผู้ใดหรือผู้ชุมนุมผู้ใด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป