จาตุรนต์” ชี้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติเสียหายกว่าไม่ผ่าน

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แกนนำพรรคเพื่อไทย ชี้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “ปราบคอร์รัปชัน” แต่กลับปราศจากกลไกตรวจสอบถ่วงดุล ย้ำหากผ่านประชามติจะสร้างความเสียหายมากกว่าไม่ผ่าน

ซึ่งมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานคณะกรรมการร่าง โดยนายมีชัย ระบุว่าเป็นร่างรัฐธรรมูญที่เน้นปราบปราม การคอร์รัปชัน และการโกงกินของผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมือง หลังการเผยแพร่ร่างฯ มี ผู้ออกมาแสดงความเห็นหลากหลาย ขณะที่นายจาตุรนต์ บอกกับบีบีซีไทยว่า เรื่องการแก้ปัญหา คอร์รัปชันถือเป็นเพียงจุดขายที่ดูจะมีข้อบกพร่องในตัวเอง เพราะในร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนด กลไกตรวจสอบถ่วงดุลอย่างโปร่งใสเชื่อถือได้ และยึดหลักนิติธรรม

คสช.ซึ่งจะอยู่ในอำนาจอยู่ต่อไปอีก 1 ปี 6 เดือน จะยังคงเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่อาจประกอบด้วยบุคคลที่มีแนวคิด ไม่ต่างจาก คสช. สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่านอกจากจะเป็นการครอบงำองค์กรอิสระแล้ว ยังเป็นการ สืบทอดอำนาจด้วย

“ร่างนี้จะมีผลยืดโรดแมปออกไปอีกสามเดือนเป็นอย่างน้อย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นใหญ่เท่ากับว่าเขากำลังวางแผนนำพาประเทศออกจากแนวทางประชาธิปไตย คือเมื่อใช้รัฐธรรมนูญแล้ว จะแก้ไขอีกไม่ได้” นายจาตุรนต์กล่าว

แต่สมาชิกเห็นตรงกันว่าไม่สามารถยอมรับร่างฯ ที่จะนำความเสียหายมาสู่ประเทศได้ แม้การไม่ยอมรับจะทำให้ต้องอยู่กับ คสช.ต่อไปอีก อย่างไรก็ดี คงต้องรอดูร่างฯ สุดท้าย ซึ่งเขาคิดจะว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายมีชัย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าไม่กังวลหากมีผู้ไม่เห็นด้วย กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่คณะกรรมการร่างฯ จะรับฟังข้อติติงที่เป็นเหตุเป็นผล และยืนยันได้ว่าร่างรัฐธรรมนูญมีความเป็นประชาธิปไตย ส่วนการกำหนดกรอบการบริหาร ราชการแผ่นดินให้รัฐบาลต้องซื่อสัตย์สุจริตนั้น ได้กำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบ เว้นแต่ข้อมูลลับ