โภคิน ยันไม่ซื้อเวลา ย้ำชัด ทรท.จริงใจปฏิรูปการเมือง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2549 11:04 น.
โภคิน ย้ำ ทรท.จริงใจปฏิรูปการเมืองโดยเฉพาะซักฟอกนายกฯ-ปลดล็อก 90 วัน ยันไม่ซื้อเวลาเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมา เตรียมระดมคณะบริหารประชุมถกแนวทางยกร่างแก้ รธน.พร้อมผู้นำคนใหม่ เหตุเอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจนักธุรกิจส่วนใหญ่หนุน สมคิด ถึงร้อยละ 57.4
วันนี้ (7 เม.ย.) นายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า พรรคไทยรักไทยมีความจริงใจในการปฏิรูปการเมืองอย่างเต็มที่ เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายฝ่ายเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันระบบตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีนั้น ทำได้ค่อนข้างยาก คือต้องใช้เสียง 2 ใน 5 หรือ 200 เสียง ในการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งทางพรรคไทยรักไทยได้มีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
จึงมองว่าหากเป็นไปได้อาจกำหนดให้เหมือนกับการตรวจสอบรัฐมนตรี คือ 1 ใน 5 หรือ 100 เสียง เพื่อให้การตรวจสอบกระทำได้ง่ายขึ้น และในส่วนของการปลดล็อก 90 วัน สำหรับสมาชิกพรรคที่ต้องสังกัดพรรคการเมืองก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทยเองก็ยินดีและเป็นการแสดงความจริงใจเพื่อให้การปฏิรูปการเมืองเดินหน้าไปได้ นายโภคิน กล่าว
เมื่อถามว่า การกำหนดเงื่อนเวลาที่จะปฏิรูปการเมืองให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี บวกลบ 3 เดือน จะนานเกินไปหรือไม่นั้น รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า กระบวนการกว่าจะสามารถเปิดประชุมสภาได้ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร และกว่าจะมีคนกลางมาร่วมร่างรัฐธรรมนูญจนแล้วเสร็จและเสนอต่อสภา จากนั้นต้องเข้าสู่กระบวนการประชาพิจารณ์จนถึงการประกาศใช้นั้น เงื่อนเวลาที่คำนวนนี้ถือว่าทุกขั้นตอนกระทำด้วยความเร่งด่วน ไม่ได้เป็นการซื้อเวลาเพื่อเรียกคะแนนนิยมของพรรคให้กลับคืนมาอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ในวันนี้ คณะกรรมการบริหารพรรครวมทั้งคณะทำงานฝ่ายการเมืองและฝ่ายกฎหมาย พรรคไทยรักไทย เตรียมประชุมเพื่อหารือถึงกรอบของแนวทางการปฏิรูปทางการเมือง และความชัดเจนในรายละเอียดของการร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 313 ซึ่งพรรคได้เตรียมในเรื่องของบุคคลคนกลาง ซึ่งมาจากหลากหลายสาขาอาชีพทั่วประเทศที่ได้ส่งรายชื่อ เพื่อการคัดเลือกให้ได้ตัวแทนแต่ละสาขานั้นๆ มาร่วมยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังกล่าวถึง การสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่า ขณะนี้พรรคยังไม่มีการหารือ แต่ในพรรคมีบุคคลที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว จริงๆแล้วก็ทำงานกันได้และช่วงนี้ประชาชนอยากเห็นการปฎิรูปการเมือง นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้ตนทำหน้าที่เป็นหลัก ส่วนที่หลายคนมองว่าคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีความรู้ด้านกฎหมายด้วยนั้น นายโภคินกล่าวว่า แต่ละคนอาจมีมุมมองที่หลากหลายแตกต่างกันไป แต่ในที่สุดอยู่ที่พรรคจะตัดสินใจ
ส่วนที่มีรายชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น นายโภคิน กล่าวว่า ตนรู้สึกเฉยๆ มีแต่คนไปจับวางว่าอยู่ตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ส่วนตัวชอบสอนหนังสือ บรรยาย ค้นคว้า เป็นนิสัยมาตั้งนาน เพียงแต่ เมื่อรับผิดชอบทำงานอะไรแล้ว จะทุ่มเทให้กับงานนั้น ไม่เหยาะแหยะ เมื่ออยู่ศาลปกครอง ก็ทำสุดกำลัง มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ทำสุดกำลัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะต้องดูเรื่องกฎหมายและเศรษฐกิจพร้อมๆกัน นายโภคิน กล่าวว่า เรื่องนี้ให้ทางพรรคเป็นคนพิจารณา
ทั้งนี้ น่าจับตามองกรณีความไม่ชัดเจนถึงการวางตัวบุคคลให้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังประกาศไม่รับตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าในการหารือวันนี้ บรรดาแกนนำอาจจะหยิบยกเรื่องนี้เข้าหารือด้วย หลังเอแบคโพลล์เปิดเผยตัวเลขของนักธุรกิจถึงร้อยละ 57.4 ต้องการให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป