โฆษกรัฐบาลยันนโยบายบัตรประชาชนระบุ"รายได้-อาชีพ" ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน หวังช่วยคนรายได้น้อยตรงตัวบุคคล ขออย่าทำสับสน
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายบัตรประชาชนระบุอาชีพและรายได้ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่จะต้องทำให้แล้วเสร็จในปี 2560 ว่า เราต้องยอมรับว่ามาตรการช่วยเหลือประชาชนในการลดภาระค่าครองชีพยังลงไปไม่ถูกกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง เช่น นโยบายรถเมล์และรถไฟฟรีที่ใครก็สามารถใช้บริการได้หมด เป็นต้น ดังนั้น การทำฐานข้อมูลที่มีการระบุรายได้และอาชีพแบบใหม่นี้จะเป็นการแสดงตัวช่วยให้นโยบายการลดภาระค่าครองชีพลงไปช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่เหมารวมทั้งหมดเหมือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมระบบภาษี ซึ่งนายกรัฐมนตรีอยากให้ทุกคนเข้าสู่ระบบภาษีไม่ใช่การรีดภาษี แต่อยากให้ประชาชนอยู่ในระบบภาษีที่เหมาะสมตามลำดับรายได้ของแต่ละบุคคล เพื่อนำเงินมาใช้ในการพัฒนาประเทศ
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังช่วยเอื้อประโยชน์ในมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เพราะที่ผ่านมามีปัญหาการตรวจสอบที่ยากเพราะต้องผ่านหลายหน่วยงาน จึงทำให้มีความผิดพลาดเงินช่วยเหลือที่จ่ายไปไม่ตรงตัวบุคคล ส่วนการที่มีบางฝ่ายกังวลว่านโยบายบัตรประชาชนแบบระบุอาชีพและรายได้จะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น ขอยืนยันว่าการแสดงข้อมูลมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนที่จะนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และอยากถามผู้ที่ตั้งข้อสังเกตว่ามีวิธีแก้ปัญหาแบบอื่นหรือไม่ อย่าเพียงตั้งข้อสังเกต แต่ต้องมีข้อเสนอแนะด้วยเพื่อไม่ให้ประเทศเกิดความสับสนและขอให้มองที่เจตนารมณ์ของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศด้วย.