อลงกรณ์ชี้โรงงานส่งออกปิดตัวไม่ได้เกิดจากเงินบาทแข็ง

อลงกรณ์ พลบุตร เชื่อ

การปิดตัวของโรงงานส่งออก ไม่ได้เกิดจากเงินบาทแข็งค่า แต่สะท้อนถึงความอ่อนแอขีดความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาประเทศที่ผิดทิศผิดทาง

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานเสวนาเชิงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
 
การปิดตัวเองของโรงงานผลิตเสื้อผ้าในอุตสาหกรรมสิ่งทอไม่ใช่เกิดจากปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเพราะค่าเงินบาทแข็งตัวเท่านั้น แต่สะท้อนถึงปัญหาความอ่อนแอของขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย และการพัฒนาประเทศที่ผิดด้วยการฝากรายได้ของประเทศไว้ที่การส่งออกถึงร้อยละ 60 ของ จีดีพี.(GDP)

ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการนโยบายพรรคฯ.จะพิจารณายุทธศาสตร์และนโยบายขนส่งและโลจิสติกส์ในวันจันทร์ที่ 16 ก.ค.นี้

โดยเป็นแนวทางปฏิรูประบบขนส่งและโลจิสติกส์ครั้งใหญ่เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเน้นระบบรางและการขนส่งทางน้ำควบคู่กับระบบการขนส่งหลายรูปแบบ รวมถึงการสร้างเอกภาพด้านกำหนดนโยบายและการบริหารแผนขนส่งและโลจิสติกส์ระดับชาติเช่นการตรากฎหมายใหม่และปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคทางการขนส่งและการค้าซึ่งจะช่วยลดต้นทุนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมทั้งระบบ เพื่อการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกไปต่างประเทศ

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า

นอกจากนี้จะมีการพิจารณา 2โครงการใหญ่ระดับเมกกะโปรเจ็คได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศนานาชาติที่เรียกว่าโครงการโกลบอลทรานส์ปาร์ค(Global transpark)และโครงการโกลบอลเทรดเลน(Global trade lane)

โดยมีการขุดคลองเชื่อมมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก

เพื่อสร้างพื้นที่พัฒนาใหม่บริเวณภาคใต้ตอนล่างให้เป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ของประเทศโดยจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำแห่งใหม่ของโลกเชื่อว่าจะเป็นแหล่งรายได้ของประเทศไทยไม่ต่ำกว่าปีละ 2 ล้านล้านบาท รวมทั้ง การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมต่อเนื่องเช่นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมประมง อุตสาหกรรมยางและอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ