เมื่อวันที่ 12 ก.ค.
ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายเสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงว่า ตามที่รัฐบาลชั่วคราวกำลังเร่งรัดจัดทำร่างกฎหมายหลายฉบับ และคาดหวังที่จะผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ปรากฏว่ามีร่างกฎหมายที่ส่อไปในทางเผด็จการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง ละเมิดต่อฐานทรัพยากรธรรมชาติ และไม่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน สวนกระแสเจตนารมณ์การปฏิรูปการเมือง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติและร่าง พ.ร.บ.อนุรักษ์สัตว์ป่า คณะกรรมการสิทธิฯมีความห่วงใยและมีความปรารถนาดี ที่จะเห็นรัฐบาลได้ดำเนินการทั้งนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพของประชาชน จึงไม่เห็นด้วยและขอคัดค้านว่า ไม่ควรเร่งรัดออกกฎหมายใดๆที่มีผลกระทบต่อสังคมโดยส่วนรวม เพราะช่วงเปลี่ยนผ่านที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
สื่อจี้รัฐบาลยกเลิก ก.ม.ความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
วันเดียวกัน องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณายุติการเสนอร่างพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคง
เหตุผล 3 ประการ คือ
1. กฎหมายฉบับนี้ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2549 มาตรา 3 รวมทั้งร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ที่กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการลงประชามติ ในหมวดว่าด้วยเสรีภาพของปวงชนชาวไทยอย่างชัดแจ้ง
2. กระบวนการในการบัญญัติกฎหมายดังกล่าว ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งๆที่เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจบุคคล หรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ มาจากกระบวนการเลือกตั้ง จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างชัดเจน ดังนั้น การตรากฎหมายลักษณะนี้ จึงควรกระทำในช่วงเวลาที่มีรัฐสภามาจากการเลือกตั้ง และ
3. เนื่องจากกฎหมายที่ให้อำนาจฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลในการดำเนินการกรณีเกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคง อาทิ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือกฎอัยการศึก ย่อมเพียงพอต่อการนำมาใช้ ควบคุมสถานการณ์ ที่เป็นภัยคุกคามทางความมั่นคงได้อยู่แล้ว จึงขอเรียกร้องให้ยุติการเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวโดยทันที เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ฟังเสียงประชาชน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็ตาม