พันธมิตรฯย้ำ ชุมนุม 7 เมษา ชู ภารกิจปฏิรูปฯ - ต้านระบอบทักษิณ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2549 17:55 น.
พันธมิตรฯปรับรูปแบบการชุมนุมวันที่ 7 เมษายน ที่ท้องสนามหลวง เป็นการชุมนุมเพื่อประกาศภารกิจปฏิรูปการเมือง การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยภาคประชาชนอย่างแท้จริงโดยห้ามการแทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม จากฝ่ายการเมืองและข้าราชการ ขณะเดียวกัน เดินหน้าผลักดันให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจมิชอบต่อไป
วันนี้ (6 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการยืนยันการชุมนุมของพันธมิตรฯในวันที่ 7 เม.ย.ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศเว้นวรรคไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า เบื้องต้นต้องยอมรับข้อเท็จจริง ว่า การประกาศเว้นวรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เป็นไปตามสัญญาประชาคมที่พันธมิตรฯเรียกร้องให้ลาออก ดังนั้น เราจึงมีความชอบธรรมที่จะชุมนุมต่อไป อย่างไรก็ตามพันธมิตรฯก็เกรงว่าจะมีการเข้าใจผิดว่ามีการชุมนุมกดดันอยู่ จึงตัดสินใจย้ายสถานที่เพื่อลดความกดดัน และให้ประชาชนเข้าใจว่าเราไม่ได้ดื้อรั้น และเราจะชุมนุมตั้งแต่เวลา 14.00 น.ถึงเวลา 02.00 น.ของวันที่ 8 เม.ย.เท่านั้น
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ อธิบายอีกว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ได้มีการปรับรูปแบบการชุมนุมเพื่อประกาศพันธกิจของพันธมิตรฯ ไม่ใช่การกดดันทางการเมืองแบบที่ผ่านมา ซึ่งเราเห็นปัญหาความซับซ้อนของสถานการณ์ที่จะมีการเตรียมจัดงานฉลองการครองราชย์ครบ 60 พรรษา พันธมิตรฯจึงต้องทบทวนระมัดระวังไม่ให้การชุมนุมถูกเบี่ยงประเด็นไปเป็นการจาบจ้วงหมิ่นเบื้องสูง จึงจะปรับรูปแบบให้นุ่มนวลมากขึ้น
นายสุริยะใส กล่าวว่า เราจะพยายามทำความเข้าใจกับประชาชน และเสนอภารกิจกรอบแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป โดยยึดกรอบใหญ่ 3 ประการ คือ 1.ต้องปลอดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ข้าราชการทั้งทางตรงและทางอ้อม 2.ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะต้องมีสัดส่วนจากภาคประชาชนที่จะมาเป็นกรรมการปฏิรูปการเมือง รวมทั้งจะต้องมีส่วนตัดสินใจว่าหรือไม่ว่ารับหรือไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.จะต้องเปิดช่องให้มีการทบทวนกฎหมายแวดล้อมอื่นๆ เช่น พ.ร.บ. พ.ร.ก.หรือพระราชกฤษฎีกา 500-600 ฉบับจะต้องทบทวนโดยมีกรอบเวลาชัดเจน รวมทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจที่ผ่านมา เรื่องซื้อขายหุ้นชิน สัมปทานเอฟทีเอ รัฐวิสาหกิจ ประชานิยม ต้องดูว่าเราจะต่อต้านนโยบายเหล่านี้อย่างไร
นายสุริยะใส กล่าวว่า หลังจากวันที่ 7 เม.ย.แกนนำพันธมิตรฯจะประชุมกรรมการพันธมิตรฯทั่วประเทศอีกครั้ง เพื่อกำหนดกรอบเสนอต่อสังคมว่าทิศทางการปฏิรูปการเมืองควรเป็นไปในรูปแบบใดโดยอาจจะเป็นการจัดเวทีกลุ่มย่อยทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความเห็นจากประชาชน