กม.ควบคุมแอลกอฮอล์ใกล้คลอดคาด 13 ก.ค.ชี้ขาดโฆษณา

นายตวง อันทะไชย

โฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คืบหน้าไปมาก อาจแล้วเสร็จในการประชุมวันที่ 13 ก.ค. นี้ โดยจะพิจารณามาตราสำคัญคือ 31-34 ที่ว่าด้วยการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเพื่อความโปร่งใส ที่ประชุมจึงมีมติเปิดให้สื่อมวลชนที่สนใจเข้าร่วมรับฟังได้

ขณะที่เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในระดับจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกทำงาน เฝ้าระวังบังคับใช้กฎหมาย ให้มีประสิทธิภาพในระดับพื้นที่ ได้ข้อสรุปว่าให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นประธาน ทั้งนี้ การประชุมที่ผ่านมาได้เชิญตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการด้วย

ด้านพระครูอุดมประชาธร หรือ พระอลงกต ติกขปัญญา

เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเป็นผู้แทนให้ข้อมูล กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อเอดส์ ร้อยละ 80 เกี่ยวข้องกับเหล้าอย่างชัดเจน เป็นสูตรสำเร็จที่มีรูปแบบไม่ต่างกัน คือ กินเหล้า แล้วเกิดอารมณ์ ไปเที่ยว และมีเพศสัมพันธ์และติดเชื้อเอดส์ แล้วนำไปถ่ายทอดให้กับคู่ชีวิตของตัวเองรวมถึงลูกๆ ขณะที่เด็กวัยรุ่นก็กลายเป็นผู้ติดเชื้อมากขึ้นและอายุน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งเด็กผู้หญิงจะเริ่มจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ แล้วค่อยๆ เพิ่มดีกรีมากขึ้น วัยรุ่นทั้งชายหญิงมักจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อที่เห็นในโฆษณา โดยโฆษณาทางโทรทัศน์มีอิทธิพลอย่างมาก

ทางด้านนายปรีดา เทพสวงค์

ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า พี่สาวและแม่ ต้องเสียชีวิตลงเพราะเหล้า ปัจจุบันต้องดูแลลูกชายที่ได้รับอุบัติเหตุถูกคนเมาขับรถชน เสียเงินนับล้านบาทในการรักษาพยาบาล เป็นเวลานานกว่า 3 ปี ขณะนี้ลูกชายพูดไม่ได้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ตนยืนยันว่าควรมีการห้ามโฆษณา เพราะการโฆษณาคือการชักจูงมอมเมาให้เยาวชนดื่ม ซึ่งเหล้าจะแพงแค่ขวดแรก ขวดอื่นๆ ก็ไม่แพงแล้วเพราะเมา

ขณะที่น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง

หัวหน้าฝ่ายศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า เหตุความรุนแรงในครอบครัว กว่าครึ่งเกิดจากผู้ชายดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วทำร้ายภรรยาและลูกเมียตัวเอง จึงไม่ควรเพิ่มนักดื่มหน้าใหม่ด้วยการโฆษณา