เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบค นวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "ประชาชนคิดอย่างไรต่อผลงานของรัฐบาลในช่วงครึ่งปีแรก : กรณีศึกษาประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา" จำนวนทั้งสิ้น 2,404 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-7 กรกฎาคม
พบว่าปัญหาหรือภารกิจเร่งด่วนที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขมากที่สุด ร้อยละ 96.3 ระบุปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ร้อยละ 94.1 ระบุปัญหายาเสพติด ร้อยละ 90.7 ระบุปัญหาอาชญากรรม ร้อยละ 89.1 ระบุการส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา ร้อยละ 88.9 ระบุปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น และร้อยละ 88.5 ระบุปัญหาเศรษฐกิจ
เอแบคโพลล์เผยปชช.หนุนสุรยุทธ์อยู่ต่อ
ดร.นพดลกล่าวว่า
สำหรับผลงานของรัฐบาลที่ประชาชนพอใจนั้น ร้อยละ 39.7 ระบุพอใจในผลงานการสร้างความสมานฉันท์ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ร้อยละ 26.4 ระบุพอใจในผลงานเรื่องการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น/การอายัดทรัพย์สิน ร้อยละ 16.4 ระบุพอใจในเรื่องการปราบปรามเทปผีซีดีเถื่อน ร้อยละ 12.2 ระบุพอใจในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด และร้อยละ 8.8 ระบุพอใจในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ส่วนผลงานของรัฐบาลที่ประชาชนไม่พึงพอใจ 5 อันดับแรก
ได้แก่ การแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ (ร้อยละ 49.3) การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (ร้อยละ 30.2) การแก้ไขปัญหายาเสพติด (ร้อยละ 15.0) ความล่าช้าในการทำงาน (ร้อยละ 9.0) และการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น (ร้อยละ 8.4)
"เมื่อสอบถามถึงความพอใจโดยภาพรวมต่อผลงานของ
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พบว่าร้อยละ 46.0 พอใจ ร้อยละ 37.4 ไม่พอใจ และร้อยละ 16.6 ไม่มีความเห็น แต่เมื่อสอบถามถึงความต้องการต่อนายกรัฐมนตรีกรณีให้ลาออกตามข้อเรียกร้องของฝ่ายชุมนุมต่อต้านหรือต้องการให้อยู่ต่อเพื่อนำพาประเทศไปสู่การเลือกตั้ง พบว่าตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 55.0 ระบุต้องการให้นายกรัฐมนตรีอยู่ต่อเพื่อนำพาประเทศไปสู่การเลือกตั้ง ในขณะที่ร้อยละ 19.7 ระบุให้ลาออกตามข้อเรียกร้องของฝ่ายชุมนุมคัดค้าน และร้อยละ 25.3 ไม่ระบุความคิดเห็น" ดร.นพดลกล่าว