พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าววานนี้ (8 ก.ค.)
กรณี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคมช. อาจลงเล่นการเมืองหลังเกษียณอายุราชการว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ พล.อ.สนธิ หากจะเล่นต้องเล่นตามระบอบ หมายถึงว่า เกษียณอายุราชการถอดเครื่องแบบแล้วลงสมัครเลือกตั้ง พูดง่ายๆว่า เข้าตามตรอกออกตามประตู ผู้สื่อข่าวถามว่า คุณสมบัติของ พล.อ.สนธิพร้อมที่จะเล่นการเมืองและเป็นผู้นำประเทศในอนาคตหรือไม่
พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.สนธิเป็น ประธาน คมช. ทุกคนก็เห็นว่ามีบทบาทที่เป็นผู้นำได้ แต่ พล.อ.สนธิก็บอกว่า ยังไม่มีขีดความสามารถเป็นผู้นำของประเทศ จึงเชื่อว่า หากเล่นการเมืองคงไม่เป็นผู้นำประเทศ เพราะเคยพูดอย่างนี้ไว้ตลอด พล.อ.สนธิรู้ตัวเองว่าคงไม่เป็นผู้นำ แต่ตำแหน่งอื่นไม่แน่
บุญรอด แย้ม สนธิ เล็งนั่ง รมว.กห.
เมื่อถามว่า
อาจเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง พล.อ.บุญรอดกล่าวพร้อมหัวเราะว่า “เออๆ หมายถึงตำแหน่งด้านความมั่นคง อย่างเป็น รมว.กลาโหมท่านก็เป็นได้อยู่แล้ว”
นายสุริยะใส กตะศิลา
เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แถลงว่า กรณีที่มีข่าวว่า พล.อ.สนธิเตรียมลงสมัครเลือกตั้งหลังเกษียณอายุราชการนั้น แม้ว่าเป็นสิทธิเสรีภาพเฉพาะตัว แต่เห็นว่าคงไม่เหมาะสมและขาดความชอบธรรม เป็นการสืบทอดอำนาจแบบใหม่ เพราะแม้ พล.อ.สนธิจะพ้นสถานภาพหรือเกษียณอายุราชการไปแล้ว
แต่ยังคงมีอิทธิพลในกองทัพอยู่ หากลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือตั้งพรรคการเมืองก็จะถูกสังคมเคลือบแคลงสงสัยว่าใช้กลไกอำนาจและทรัพยากรของกองทัพไปเอื้อประโยชน์ทางการเมือง ถึงชนะเลือกตั้งก็จะเป็นชัยชนะที่ขาดความสง่างาม ทั้งนี้ภาพลักษณ์ของ พล.อ.สนธิหลังการยึดอำนาจถือเป็นบุคคลที่มีคะแนนนิยมและความไว้วางใจจากสังคมสูง
จึงควรทำตัวเป็นแบบอย่างแก่ผู้นำเหล่าทัพในอนาคต และควรถือบรรทัดฐานเดียวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ห้ามดำรงตำแหน่งในบริษัทเอกชนหลังการเกษียณอายุไม่เกิน 2 ปี เพื่อป้องกันใช้ข้อมูลภายในไปเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน หาก พล.อ.สนธิจะลงสมัครรับเลือกตั้งก็ควรเป็นการเลือกตั้งครั้งถัดไป
ด้าน นายนพดล ปัทมะ
ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเรื่องเดียวกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่ได้ผิดความคาดหมาย และเป็นสิทธิของ พล.อ.สนธิที่จะลงเล่นการเมืองหลังเกษียณ อย่าไปมองว่า พล.อ.สนธิทำในสิ่งผิดปกติ เพราะการเลือกตั้งเป็นหนทางเข้าสู่อำนาจอย่างถูกต้องตามครรลอง การลงพื้นที่ไปหาประชาชนยังดีกว่าการเอากระบอกปืนและรถถังไปยึดอำนาจ ถ้าลงเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.เข้ามาก็สง่างาม