สุรยุทธ์ลั่นถึงเวลารื้อโครงสร้าง ปรามอย่าก่อปัญหามากนัก

รุ่นเก๋าเดือด : อดีตอธิบดีกรมตำรวจหลายนาย นำโดย พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ นัดประชุมหารือเครียดกรณีที่รัฐบาลมีมติ


ให้โอนย้าย สตช.ไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม โดยมีมติขอแก้ไขเนื้อหาสำคัญบางประการ โดยจะเสนอให้รัฐบาลหลังวันที่ 12 กรกฎาคมนี้

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อเช้าวันที่ 5 กรกฏาคม

ถึงกรณี คณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติเห็นชอบร่างพรบ.ปรับโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ครั้งใหญ่ แต่ถูกคัดค้านจากอดีตนายตำรวจระดับสูงว่า ไม่ได้เป็นเรื่องที่ถือว่าใหญ่โตอะไร และเป็นเรื่องที่เคยพูดเสมอว่าการทำงานต้องมีการปรับปรุง นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางฝ่ายที่พิจารณาเรื่องการออกกฏหมาย ก็ได้ให้สตช.เสนอความเห็นประกอบมาก่อนแล้ว และในครั้งนี้ได้นำร่างแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ดูเพื่อประกอบกัน ต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไร

ฤาษีเสียงแข็งเตือนตร.อย่ามีปัญหา


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการทำความเข้าใจกับผู้ที่คัดค้านหรือไม่ เพราะมีบางคนเห็นว่าเป็นการเสนอเข้าที่ประชุม ครม.เป็นวาระจร นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมีปัญหา เพราะความจำเป็นคือต้องนำเรื่องเข้าคณะกรรมการกฤษฎีกาให้เร็ว เพื่อจะได้มีกำหนดเวลาในการทำงานต่อไป "จริงๆ เป็นเรื่องที่ถึงเวลาที่จะต้องมีการปรับปรุง ในทุกหน่วยงานก็ต้องเป็นอย่างนั้น ถ้ามัวแต่วนถาม เวียนถามกันอยู่ ก็คงไม่ทัน" นายกฯกล่าว

"สนธิ"ปัดหน้าตายไม่ทราบเรื่อง

ส่วนพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการหารือกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ส่วนพล.ต.ท.ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าจะมีการย้ายจริงไม่ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีการย้ายไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม แต่ว่าก็ยังไม่แน่ ซึ่งขณะนี้ตำรวจขึ้นกับสำนักนายกรัฐมนตรีก็น่าดูแลได้ดีอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาล

อดีตบิ๊กตร.รวมผลต้านผ่าตัดใหญ่


วันเดียวกันเมื่อเวลา 10.00 น. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ได้มีการนัดหารือของอดีตนายตำรวจระดับสูง และองค์กรตำรวจ 3 องค์กร ได้แก่ สมาคมข้าราชการตำรวจ ชมรมข้าราชการตำรวจบำนาญ และสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยการนำของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตอธิบดีกรมตำรวจคนสุดท้าย และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนแรก


"สวัสดิ์"จวกใช้ตำราเล่มไหนเขียน

ต่อมาการประชุมได้เริ่มขึ้นโดย พล.ต.อ.สวัสดิ์ กล่าวเปิดประชุมว่า ไม่เข้าใจโครงสร้างใหม่ที่เสนอมาใช้ตำราเล่มไหนเขียน เพราะเหมือนเป็นคอนโดฯ เป็นแท่งๆ มีอธิบดีเยอะขึ้นถึง 10 กว่าคน และยังตัดอำนาจของ ผบ.ตร.ด้วย ส่วนตัวนั้นรัฐบาลชั่วคราวไม่ควรมากำหนดนโยบายในด้านยุติธรรม การปรับโครงสร้าง น่าจะเป็นการทำงานของรัฐบาลถาวรมากกว่าเพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน

เผยอดีตบิ๊กตำรวจรุมค้านเดือด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาอดีตนายตำรวจที่เข้าร่วมประชุมต่างผลัดกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว โดยบรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่รุมถล่มการปรับโครงสร้าง สตช.อย่างดุเดือด และไม่เห็นด้วยกับร่างพรบ.ฉบับนี้ในหลายประเด็นโดยเฉพาะการให้ย้ายไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพราะเชื่อว่าแก้ปัญหาการเมืองแทรกแซงไม่ได้ นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวของ ครม. น่าจะมีอะไรแอบแฝง เพราะถูกเสนอเป็นวาระจร รวมทั้งเห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้มาโดยชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย แต่มาจากการัฐประหาร และการปรับโครงสร้างตำรวจใหญ่เกินกว่าจะใช้เวลาสั้นๆพิจารณา

ยังไม่ได้ข้อสรุปถกใหม่12กค.

ด้าน พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กล่าวหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติว่าไม่ได้ต่อต้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่จะขอศึกษารายละเอียดก่อน โดยจะแจกจ่ายเอกสารเกี่ยวกับโครงสร้างตำรวจให้ไปศึกษาก่อน 7 วัน แล้วจะนัดหารือกันอีกครั้งในวันที่ 12 ก.ค.นี้ พร้อมทั้งจะตั้งคณะทำงาน เพื่อศึกษารายละเอียด ซึ่งมีแนวทางที่จะเสนอ 4 แนวทาง ประกอบด้วย ยื่นข้อเสนอกับทางรัฐ คณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการตำรวจ คณะกรรมการกฤษฎีกา และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช. )ต่อไป เพื่อขอเสนอแก้ไขในบางมาตรา

"ประทิน"ร่วมค้านยันแก้ปัญหาไม่ตรงจุด


วันเดียวกัน พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ได้ออกมาให้ความเห็นในเรื่องเดียวกันว่า ไม่เห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างดังกล่าว เพราะแก้ปัญหาไม่ตรงจุดและลักษณะการจัดโครงสร้างคล้ายโครงสร้างของกองทัพ ทั้งที่ภารกิจของตำรวจและทหารต่างกันอย่างสิ้นเชิง "ก่อนหน้านี้ตำรวจเคยขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย แล้วย้ายมาอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้แวดวงตำรวจดีขึ้นบ้างไหม แล้วคราวนี้จะมาเปลี่ยนอีกถามว่าจะเกิดผลดีขึ้นอย่างไร ผมเห็นว่ามันก็ไม่ได้ต่างกัน ถ้าคิดจะปรับเปลี่ยนควรทำให้ดีกว่านี้ ผมกำลังมองว่า พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ไม่แก้ไขปัญหาของตำรวจเลย" อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และอดีต ส.ว.กทม. กล่าว

อัด"ขิงแก่"อย่าใช้"เงิน"ล่อ

อดีตอธิบดีกรมตำรวจ กล่าวอีกว่า ตนเห็นว่าข้อกำหนดต่างๆในกฎหมายใหม่ยังไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องการปรับเพิ่มเงินเดือนไม่ต้องร่างเป็นกฎหมายเพราะสวัสดิการเหล่านี้ปรับเพิ่มได้โดยไม่ต้องออกเป็นกฎหมายถึง 2 ฉบับ อย่าเอากฎหมายมาล่อกัน "คนเขียนกฎหมายยังมาบอกว่าถ้าร่าง พ.ร.บ.นี้ผ่านจะทำให้ตำรวจชั้นผู้น้อยไม่ต้องไปหาเศษหาเลย โดยเฉพาะในมาตรา 8 ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเหยียบย่ำและทับถมกันเกินไป ถ้าจะเพิ่มเงินเดือนไม่ต้องเอาเรื่องแบบนี้มาล่อกัน จะทำก็ทำเลย เพราะสิ่งนี้ถือเป็นเรื่องจำเป็นกับข้าราชการตำรวจที่จะเอื้อให้เขาปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ควรทำ" พล.ต.อ.ประทิน กล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์