ชู‘ปฏิรูป’ก่อนเลือกตั้ง เทพเทือกลุย ประกาศภารกิจหลังสึก

ชู‘ปฏิรูป’ก่อนเลือกตั้ง เทพเทือกลุย ประกาศภารกิจหลังสึก

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 28 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดไตรธรรมาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ว่า พระสุเทพปภากโร (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) พร้อมพระอีก 3 รูป คือ พระเชน อาภาธโร

(นายเชน เทือกสุบรรณ) พระชินวรณ์ จันทสาโร (นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ)และพระธีรภัทร์ จันทสีโล (นายธีระภัทร์ พริ้งศุลกะ) ได้เข้าพิธีลาสิกขา โดยมี พระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค16 เป็นพระอุปัชฌาย์ผู้ทำพิธีลาสิกขาบท ท่ามกลางอดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) เช่น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายสกลธี ภัททิยะกุล นายชุมพล จุลใสและญาติสนิทไปร่วมพิธีจำนวนมาก

หลังลาสิกขาบท นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ลาสิกขาเพราะมีภารกิจที่ต้องดำเนินการต่อ โดยจะดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปแห่งประเทศไทยและเคลื่อนไหวในภาคประชาชนตามที่เคยระบุคือ เป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชนที่ออกมาร่วมชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ก่อนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศ 6ข้อ ที่กลุ่ม กปปส.เคยเรียกร้องให้มีการดำเนินการ เราจะสานงานนี้ต่อไป ขอให้รอฟังการแถลงในวันที่ 30กรกฎาคม ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

ย้ำหลักการไม่นิรโทษแกนนำ

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ตนขอฝากไปถึง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันคล้ายวันเกิดเมื่อ 26กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ขอให้ยึดคำสอนของท่านพุทธทาสที่ว่า อย่ายึดมั่นถือมั่นในตนเอง อย่ายึดว่าตัวกูของกู จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รู้จักคิดเพื่อคนอื่นๆรวมทั้งประเทศชาติมากยิ่งขึ้น ส่วนแนวทางสร้างความปรองดองตนยืนยันว่า ในฐานะเป็นแกนนำการชุมนุมผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม รวมถึงคดีอาญาร้ายแรงและคดีอาญามาตรา112 เพราะกระทบความมั่นคงของประเทศ ส่วนประชาชนทั่วไปที่ตามมาชุมนุมนั้น สามารถนิรโทษกรรมได้

ย้ำไม่หวนกลับลงเลือกตั้งอีก

นายสุเทพ ยังโพสต์เวซบุ๊กด้วยว่า หลังสึกแล้วก็จะมาทำงาน”มูลนิธิมวลมหาประชาชน เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย”ไม่กลับไปลงสมัครรับเลือกตั้งอีกแล้ว แต่จะทำงานการเมืองภาคประชาชน ร่วมกับพี่น้องมวลมหาประชาชน เพื่อประโยชน์ของชาติประโยชน์ของแผ่นดินสืบต่อไป

ประเดิมค้านย้ายที่ตั้งบช.ภ.8

เวลา 11.30น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ พร้อมคณะ เดินทางยังสำนักงานตำรวจภูธรภาค8(บช.ภ.8) อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการย้ายที่ตั้ง บช.ภ.8 ไปที่ จ.ภูเก็ต โดย พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8 ติดราชการ จึงให้ พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพรสี รอง ผบช.ภ.8 รับหนังสือแทน ทั้งนี้ เนื้อหาในหนังสือระบุว่า การย้าย บช.ภ.8 จาก จ.สุราษฎร์ธานี ไป จ.ภูเก็ต ข้าราชการชั้นผู้น้อยจะได้รับผลกระทบ ทั้งเรื่องที่อยู่และที่เรียนของลูกอีกทั้งการติดต่อประสานงานของจังหวัดต่างๆ จะพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย

สตช.ยันที่ใหม่เหมาะสมกว่า

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช.ชี้แจงว่า ตนได้รับการคัดค้านเรื่องดังกล่าวแล้ว สำหรับเหตุผลที่ย้ายที่ตั้ง บช.ภ.8 เนื่องจากที่เดิมมีปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง ขณะที่ทำการใหม่สามารถเดินทางเชื่อมต่อจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.พังงาและจ.ชุมพร สถานที่นังกว้างขวางและสามารถรองรับประชาชนที่มาติดต่อราชการได้สะดวก รวมถึงสภาพแวดล้อมโดยรวมดีเหมาะเป็นที่ตั้ง บช.ภ.8

คสช.ชี้แถลงข่าวต้องขออนุญาต

ขณะที่ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสธทบ.ในฐานะรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เตรียมจะแถลงข่าวในวันที่ 30กรกฎาคม ว่า ขอสอบถามเจ้าหน้าที่ คสช.ก่อน เพราะตนยังไม่เห็นหนังสือขออนุญาตแถลงข่าว ท่านอาจจะทำหนังสือมาแล้ว แต่ยังมาไม่ถึงตน หรืออาจจะยังไม่ได้ทำหนังสือมา ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน แต่ตามขั้นตอนแล้ว การจะแถลงข่าว หรือจัดกิจกรรมใดๆที่สุ่มเสียงเกี่ยวข้องกับการเมืองต้องขออนุญาต คสช.ว่า จะแถลงข่าวเรื่องอะไร ประเด็นไหน

‘บิ๊กเบี้ยว’ส่งทหารตามประกบ

พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจากการติดตามผ่านทางสื่อทราบว่า นายสุเทพ จะแถลงข่าวเกี่ยวกับมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฎิรูป ถือเป็นเรื่องของมูลนิธิ หากไม่เกี่ยวกับการเมืองก็ไม่จำเป็นต้องมาขออนุญาต “กรณี นายสุเทพ จะแถลงข่าวนั้น ผมจะส่งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่นั้นให้ไปติดตามความเคลื่อนไหวและสังเกตการณ์ว่า เนื้อหาที่พูดสุ่มเสี่ยงเรื่องการเมืองหรือไม่ หากพบมีเรื่องการเมืองก็ต้องขอร้องให้หยุดแถลงข่าว เพราะบ้านเมืองต้องการความปรองดอง การเคลื่อนไหวอะไรที่จะส่งผลกระทบขอให้เบาๆหน่อย”

‘ถาวร’เผยขออนุญาตภาค1แล้ว

นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.กล่าวถึงกรณี คสช.สั่งให้แกนนำ กปปส.ทำหนังสือขออนุญาตและแจ้งรายละเอียดการแถลงข่าวของ นายสุเทพ ว่า ตนได้รับการประสานจาก พล.ท.อัศวิน แจ่มสุวรรณ นายทหารหัวหน้าสำนักงานแม่ทัพภาคที่1 ที่แจ้งขอให้ทำรายละเอียดและประเด็นในการจะจัดงานแถลงข่าวส่งให้ คสช.พิจารณาก่อน ซึ่งแกนนำ กปปส.ได้ร่างหนังสือขออนุญาตแจ้งไปแล้วว่า ไม่ขัดข้องและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกอย่าง ทั้งนี้ประเด็นที่จะจัดแถลงต่อสื่อฯนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับงานการเมือง เป็นการชี้แจงวัตถุประสงค์การดำเนินงานของมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ซึ่งเป็นประโยชน์สาธารณะและส่วนรวม

พท.เชื่อสึกออกมาป้องรบ.บิ๊กตู่

ด้าน นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พระสุเทพ ลาสิกขาบทว่า นายสุเทพ ก็ยืนอยู่ข้างพล.อ.ประยุทธ์ และออกมาปกป้องรัฐบาลตลอดเวลา แม้เรื่องเรือดำน้ำก็สนับสนุน ฉะนั้นการออกมาครั้งนี้คงมีนัยเพราะ นายสุเทพ ประกาศชัดเจนว่า จะไม่สมัคร สส.และไม่เล่นการเมือง คงมีนัยมาปกป้องรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นได้

‘จตุพร’ดักคอให้เลิกการเมืองจริง

ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ขอแสดงความดีใจที่ นายสุเทพ ได้ลาสิกขาบทออกมาเป็นประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯและ ไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองต่อ ขอให้ทำจริง นายสุเทพ มีความอดทนและมีความตั้งใจสูง เชื่อว่าประชาชนได้เห็นถึงอุดมการณ์ทางการเมืองของนายสุเทพแล้ว

‘หม่อมอุ๋ย’ลั่นไม่กลัวเจาะยาง
       สำหรับความคืบหน้าการปรับ ครม.นั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าก่อนประชุม ครม.ระหว่างรัฐมนตรีเตรียมซ้อมปั่นจักรยานก่อนเข้าร่วมกิจกรรม“ปั่นเพื่อแม่” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ได้พูดคุยหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี โดยผู้สื่อข่าวกระเซ้าถามกระแสข่าวปรับ ครม.ทีมเศรษฐิจว่า เติมลมยางมาดีหรือยัง แล้วกลัวใครจะเจาะยางหรือไม่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า “ผมเช็คลมยางมาดีแล้ว ไม่กลัวใครจะมาเจาะลมยาง จะมีก็แต่สื่อเท่านั้นที่จ้องจะเจาะยางผม” ก่อนจะชี้มือมายังกลุ่มผู้สื่อข่าว

แถลงผลประชุมครม.แทนนายกฯ

ต่อมา เวลา 13.50น.หลังประชุม ครม.ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปรับประทานอาหารกลางวัน ได้มอบหมายให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร แถลงข่าว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า การที่นายกฯให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร มาแถลงข่าวเหมือนต้องการกลบกระแสข่าวปรับ ครม.และเป็นครั้งแรกที่นายกฯไม่แถลงผลประชุม ครม.ด้วยตัวเอง

ไม่รู้ดึง’สมคิด’เสียบแทนหรือไม่

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวถึงกระแสปรับ ครม.อีกครั้งว่า ตอนนี้ยังสบายใจและที่ผ่านมาก็ทำงานด้วยความมั่นใจ ดูจากวันนี้รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม ส่วนกระแสปรับครม.ช่วงเดือนกันยายนนั้น ตนไม่รู้ ยืนยันทำงานเต็มที่ ส่วนกระแสข่าวจะดึง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา คสช.มาเข้าร่วมใน ครม.เศรษฐกิจแทนนั้น เป็นสิ่งที่ตนไม่ทราบและไม่อยากคาดเดา

‘สมหมาย’ยันสุขภาพโอเคแล้ว

ด้าน นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังร่วมซ้อมปั่นจักรยาน ว่า ตนไม่ได้ปั่นจักรยานมา 50กว่าปีแล้ว ปั่นตอนเป็นนักเรียนมัธยมต้นและก่อนหน้านี้ได้ซ้อมนิดหน่อย เมื่อถามว่า หลังจากซ้อมปั่นวันนี้แล้วรู้สึกอย่างไร หายใจแรงขึ้นบ้างหรือไม่ นายสมหมาย กล่าวว่า ตนปอดไม่ครบ เพราะเป็นมะเร็งตัดปอดทิ้งไปบางส่วน แต่ตอนนี้โอเคแล้ว

กมธ.ให้องค์กรอิสระอยู่ครบวาระ

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยมี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ซึ่งมีวาระพิจารณาร่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญในส่วนบทเฉพาะกาล เกี่ยวกับการดำรงอยู่ในตำแหน่งขององค์กรตามรัฐธรรมนูญในวันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการดำรงอยู่ในตำแหน่งของบุคคลที่ดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการในองค์กรอิสระ ซึ่งตามหลักการจะไม่ไปตัดสิทธิการดำรงอยู่เดิมขององค์กรอิสระในขณะนี้และจะให้อยู่ในตำแหน่งจนครบวาระตามเดิม โดยในส่วนของ กกต.ซึ่งทำงานเป็นทีมจะให้อยู่ตำแหน่งในวาระและให้พ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกัน หรือเรียกว่า “มาเป็นทีม ไปเป็นทีม”คือ ให้ดำรงตำแหน่งไปจนครบวาระที่เหลืออยู่

ขณะที่องค์กรตามรัฐธรรมนูญอื่นๆ เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญ จะให้อยู่จนครบวาระของแต่ละบุคคลตามเดิม หรือเรียกว่า“มาเดี่ยว ไปเดี่ยว”ทั้งนี้ หากต้องมีการสรรหาบุคคลเพื่อเข้ามาเป็นกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างจะให้บุคคลที่เข้ามาแทนอยู่ในวาระที่เหลือของบุคคลเดิม เช่น นาย ก. มีวาระ 6 ปี ปรากฎว่านาย ก.ขอลาออกในปีที่4 ทำให้เหลือวาระ 2ปี ดังนั้นคนที่เข้ามาแทน นายก.ก็จะดำรงตำแหน่งได้แค่ 2ปี เป็นต้น ส่วนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่เพิ่งได้รับการสรรหาเข้ามาใหม่ กมธ.ยกร่างฯจะไม่ตัดสิทธิบุคคลเหล่านี้และจะให้อยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ

‘วันชัย’เย้ย’แม้ว’ช่วยตัวเองก่อน

มีความเห็นจาก นายวันชัย สอนศิริ สมาชิก สปช.กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯอาสาเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้รัฐบาลว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรช่วยตัวเองให้รอดก่อน ประเทศนี้ไม่ได้ผูกไว้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว ยังมีคนเก่งอีกมาก ทางที่ดีควรอยู่เฉยๆ อย่างสงบ หยุดเคลื่อนไหว ยอมรับกติกาบ้านเมือง แล้วบอกพวกของท่านอย่าสร้างความขัดแย้ง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์