ที่ห้องพิจารณา 910 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.196/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนาย ชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และนาย ธีรวัฒน์ บุญพา แนวร่วม นปช. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต, จัดตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และจงใจกระทำให้เกิดการรบกวนหรือขัดขวางต่อการวิทยุคมนาคม อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 มาตรา 6,11,22,23
ตามที่โจทก์ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2555 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 9 มกราคม-13 เมษายน 2552 จำเลยทั้งสอง ได้ใช้วิทยุคมนาคม เครื่อง FM TRANSMITTER ซึ่งมีคลื่นความถี่ภาคส่งคลื่นวิทยุ 107.5 เมกะเฮิรตซ์ ไม่มีหมายเลขทะเบียน พร้อมเครื่องขยายกำลังส่งปรากฏอักษร R.V.R. รุ่น PJ. 1000 C-LCD ชนิดประจำที่ ไม่มีทะเบียน กระจายเสียงจากห้องเช่าอาคารเอ็มพี ทาวเวอร์ เลขที่ 731 เขตดินแดง โดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำดังกล่าวเป็นการจงใจทำให้เกิดการรบกวนความถี่วิทยุ ของสถานีวิทยุกระจายเสียง กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย จำเลยให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้ ระหว่างพิจารณาคดี นายชินวัฒน์ จำเลยที่ 1 มีพฤติการณ์หลบหนี ศาลให้ออกหมายจับปรับนายประกัน โดยให้จำหน่ายคดีเฉพาะในส่วนของนายชินวัฒน์ออกจากสารบบความเป็นการชั่วคราวไว้ก่อน ในวันนี้ศาลจึงอ่านคำพิพากษาในส่วนของนาย ธีรวัฒน์ เพียงคนเดียว โดยได้พิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีนายสถานีวิทยุกระจายเสียง กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี เป็นพยาน เบิกความว่า ต้นปี 2552 ได้รับการร้องเรียนจากผู้ฟังรายการว่ามีคลื่นวิทยุชุมชนรบกวน จึงตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งตำรวจที่เข้าตรวจค้นอาคารเอ็มพี ทาวเวอร์ เบิกความสอดคล้องกันว่า ที่ห้องเช่าชั้น21 พบเครื่องส่ง, สายสัญญาณวิทยุ ที่โยงกับเสาอากาศขึ้นไปชั้นดาดฟ้า โดยมีนายธีรวัฒน์เป็นผู้ทำสัญญาเช่า
ส่วนที่นายธีรวัฒน์ อ้างว่า ไม่ทราบว่า นายชินวัฒน์ ได้ส่งสัญญาณวิทยุนั้นรับฟังไม่ได้ เนื่องจากนายธีรวัฒน์ต้องชำระค่าเช่าเดือนละกว่า 10,000 บาท หากไม่ทราบเรื่อง ก็ไม่น่านำตัวเองเข้าไปสู่ภาระผูกพันตามสัญญาที่มีมูลค่าสูง ขณะที่พยานหลักฐานโจทก์ มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งปรักปรำ ศาลพิพากษาจำคุก จำเลยที่2 รวม 3 ปี ฐานผิด พ.ร.บ.วิทยุคมนาคมฯ มาตรา 6,11,23 คำเบิกความเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุก เป็นเวลา 2 ปี และริบของกลาง
ภายหลังฟังคำพิพากษา ทนายความของนายธีรวัฒน์ ได้เตรียมยื่นหลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดีต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
