นายกฯปลื้มเยือนอินเดียบรรลุผล

ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเดินทางเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 25-27 มิ.ย. ว่า ถือว่าประสบความสำเร็จ จากนี้ต่อไปเราต้องดำเนินการในเรื่องการปรับปรุงข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-อินเดียซึ่งได้มีการเจรจากันมานานแล้วและข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่ข้อตกลงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอาเซียนกับอินเดียในโอกาสข้างหน้ายืนยันว่าจะไม่มีอะไรในลักษณะที่ได้ หรือเสียประโยชน์แต่จะเป็นความร่วมมือกันอย่างจริงจัง

ส่วนไทยจะเข้าไปลงทุนก่อสร้างขนาดใหญ่ในตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียแต่คงไม่สามารถตีมูลค่าได้ โดยสิ่งที่อินเดียสนใจมาลงทุนนั้นจะเป็นสิ่งที่อินเดียเชี่ยวชาญอยู่แล้ว อาทิ บริษัททาทา ที่ผลิตรถยนต์ในอินเดีย อีกส่วนที่หารือคือการเร่งก่อสร้างเส้นทางคมนาคมระหว่างอินเดีย-พม่า-ไทยซึ่งคงจะต้องหารือกันต่อไปเพราะต้องหารือกับพม่าด้วย อย่างที่เราทราบดีอยู่แล้วว่าจีนและอินเดียก็คงจะเป็นส่วนที่สำคัญทางเศรษฐกิจของเอเชียในโอกาสข้างหน้าถ้าเราได้มีความร่วมมือกับ 2 ประเทศนี้แล้วก็จะทำให้โอกาสของประเทศเราดีขึ้น โดยรัฐบาลจะดำเนินการให้ต่อเนื่องในนโยบายนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ในระหว่างการเยือนประเทศอินเดียอย่างเป็นทางการของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 25-27 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ตามกำหนดเดิม นายกรัฐมนตรีของไทยและอินเดีย จะประกาศลงนามเอฟทีเอในส่วนที่เหลือจากที่ได้เปิดเสรีการค้าสินค้าไปแล้ว 82 รายการ แต่กลับไม่มีการประกาศลงนาม เป็นเพราะอินเดียยังไม่ยอมผ่อนปรนเงื่อนไขในเรื่องแหล่งกำเนิดสินค้าตามที่ไทยเสนอ ทั้งๆที่การทำเอฟทีเอไทย-อินเดีย ไทยต้องการเปิดเสรีให้มากกว่าในอาเซียน (อาเซียนพลัส) แต่อินเดียกลับให้ไทยน้อยกว่า (อาเซียนไมนัส) จึงทำให้การเจรจาต้องยืดเยื้อต่อไปอีก

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ