"นับตั้งแต่ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายรัฐมนตรีเป็นเวลาเกือบ4เดือนในส่วนตัวพยายามสงบนิ่ง เพราะไม่อยากให้ปัญหาของตนไปกระทบกับภารกิจปฏิรูปประเทศของนายกฯและรัฐบาล แต่เมื่อมีข้อสรุปจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และมีข่าวว่าจะมีการให้กลับกระทรวงสาธารณสุข กลับมีกระบวนการสกัดกั้นโดยการออกข่าวใส่ร้ายป้ายสี ก็เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2558 มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าว แจกเอกสารที่มีข้อมูลเป็นเท็จ และมีการรับลูกโดยการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างรวดเร็วในวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 การกระทำเช่นนี้สังคมน่าจะมองออกว่า เป็นเพราะไม่ต้องการให้ผมกลับใช่หรือไม่ โดยคนที่ออกมาเคลื่อนไหวก็ไม่สนใจวิธีการและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกระทรวงเลย" นพ.ณรงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท และกลุ่มหมอชนบทที่มาให้ข้อมูลดังกล่าวด้วยหรือไม่ นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ตนยังไม่ดำเนินการใดๆ ขอพิจารณาก่อน แต่ที่อยากบอกคือ ขนาดตนเป็นปลัด สธ. ยังถูกกระทำเช่นนี้ จึงจำเป็นต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีและเกียรติยศของตนเองและครอบครัว เรียกร้องความเป็นธรรมโดยอาศัยกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเชื่อว่ายังคงมีอยู่ในสังคมไทย
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ทางทนายอยู่ระหว่างดำเนินการต่างๆตามกฎหมาย โดยได้พิจารณาการกล่าวหาของชมรมแพทย์ชนบทที่มีต่อ นพ. ณรงค์ ว่าประเด็นใดที่เป็นเรื่องเท็จบ้าง ซึ่งอาจมีการดำเนินคดีต่อไป เพราะเรื่องนี้เป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีข้าราชการ เพราะขนาดปลัดกระทรวงฯ ยังถูกกระทำ ในอนาคตข้าราชการทุกคนที่ต้องการความเป็นธรรม หรือต้องการแสดงความคิดเห็นต่างๆ คงไม่สามารถทำได้อีก
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช และกรรมการชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ในนามชมรมแพทย์ชนบทมองว่าการที่นพ.ณรงค์ จะมาขอข้อมูลจากคณะกรรมการสืบสวนฯชุดนพ.ทวีนั้น ก็ถือเป็นสิทธิที่พึงกระทำ ส่วนที่บอกว่าชมรมฯให้ข้อมูลไม่จริง เรื่องนี้ไปต่อสู้ในกระบวนการตรวจสอบได้ หรือจะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมก็ได้ ถือเป็นสิทธิ แต่ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาการนำเสนอข้อมูลใดๆก็ตาม ชมรมฯ รวบรวมหลักฐานพร้อมตลอด ที่สำคัญข้อมูลข้อร้องเรียน นพ.ณรงค์ ล้วนมีคนส่งเรื่องมาให้ชมรมฯ และได้มีการตรวจสอบรวบรวมหลักฐานหมดแล้ว จะเห็นว่าทุกครั้งที่มีอะไรไม่ชอบมาพากลในกระทรวงฯ ชมรมฯ จะได้ข้อมูลตลอด จึงกล้าออกมาพูดแบบนี้
ผู้สื่อข่าวถามกรณีชมรมแพทย์ชนบทถูกมองว่าการออกมาเคลื่อนไหวเป็นไปเพื่อสกัดกั้นการกลับมาของนพ.ณรงค์ นพ.อารักษ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องเลย พวกตนเป็นเพียงแค่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนเท่านั้น การที่ออกมาพูดว่าขอคัดค้านไม่ให้นพ.ณรงค์ กลับมานั้น ไม่ได้สกัดกั้น แต่ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาปัญหาความขัดแย้งภายในกระทรวงฯมีอยู่ แต่เมื่อนพ.ณรงค์ ไม่อยู่ ทุกอย่างราบรื่น ทำงานต่างๆได้ ส่วนเรื่องที่ชมรมฯออกมาเปิดเผยนั้น เป็นเพียงตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการกระทำที่อาจไม่สุจริต ข้อเท็จจริงก็ต้องไปตรวจสอบ เพราะนพ.ณรงค์ เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นผู้ใหญ่ และเป็นผู้นำประกาศ ธงเรื่องธรรมาภิบาล เรื่องนี้ก็ต้องชัดเจนด้วย
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่จะถูกนพ.ณรงค์ ดำเนินคดีทางกฎหมาย นพ.อารักษ์ กล่าวว่า ไม่กังวล หากจะทำก็ทำได้ ก็ไปสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพราะชมรมฯก็มีหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหมด