บิ๊กตู่ ตอบชัดไม่ติดใจหม่อมอุ๋ย ไม่ต้องเคลียร์! ลั่น มีอำนาจเด็ดขาด ถ้าจะปรับครม.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง บิ๊กตู่ ตอบชัดไม่ติดใจหม่อมอุ๋ย ไม่ต้องเคลียร์! ลั่น มีอำนาจเด็ดขาด ถ้าจะปรับครม.
"บิ๊กตู่" ไม่ติดใจหรือต้องเคลียร์ใจหม่อมอุ๋ย ชี้ปรับครม. ขึ้นอยู่กับตัวเอง ลั่นมีอำนาจเด็ดขาด ชี้รมว.กลาโหมไม่ใช่ใครก็เป็นได้
22 ก.ค. - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ได้วิพากษ์วิจารณ์ ว่านายกฯไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจและกระแสการปรับครม. ว่าไม่ต้องการเคลียร์ใจกับใคร ข่าวมาจากสื่อที่เขียนเกือบทุกฉบับให้ปั่นป่วน ยืนยันไม่ได้ติดใจอะไรใครทั้งนั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่ในใจ ความคิดอยู่ในหัว ขออย่าถาม ตนเป็นคนรับผิดชอบ และเป็นคนตัดสินใจ เพราะเป็นคนเลือกคนมาทำงาน
"ผมเป็นคนมีอำนาจเด็ดขาดทั้งหมด ไม่มีใครมีอำนาจเหนือผมสักคน ให้รู้บ้างว่าใครเป็นผู้บังคับบัญชา บทบาทผู้บังคับบัญชากับการเป็นพี่เป็นน้องเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อะไรก็ลบล้างตรงนี้ไม่ได้ แต่การทำงานก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งขอให้แยกบทบาทให้ออก"
ส่วนกระแสข่าวการปรับ ครม.ในส่วนของกระทรวงกลาโหมนายกรัฐมนตรีระบุว่า กลาโหมไม่ใช่ใครก็มาเป็นได้ ไม่เกี่ยวกับบารมี
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความเหมาะสมและความสามารถ ไม่ใช่เพราะเป็นบูรพาพยัคฆ์ มีกลุ่มทหารเสือ กลุ่มอำนาจเก่า กลุ่มวงศ์เทวัญเขียนกันจนเละไปหมด คราวหลังสื่อก็มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะได้ตั้งใครก็ได้ ซึ่งทุกอย่างมีพ.ร.บ.แต่งตั้งอยู่แล้ว ไม่ใช่นึกจะตั้งใครก็ได้ ขออย่าเขียนให้เกิดความปั่นป่วน แบ่งคนเป็นก๊กเป็นเหล่า พร้อมย้อนถามกลับด้วยว่า ต้องการให้ประเทศสงบสุขหรือต้องการให้มีความขัดแย้ง
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังได้ปฏิเสธและยืนยันว่ายังไม่มีการปรับ ครม. ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างคิดในใจ และได้คิดล่วงหน้าทั้งหมดไม่ใช่คิดเพียงสั้นๆ
คิดตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. จนถึงวันนี้ ส่วนการจะปรับหรือไม่วันข้างหน้าก็จะรู้เอง นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้ย้อนถามถึงเหตุผลหากมีการปรับกับผู้สื่อข่าว ซึ่งระบุว่า อาจเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ และความเป็นเอกภาพของ ครม. นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสวนขึ้นมาว่า เอกภาพอยู่ที่ตนเป็นคนสั่งทั้งหมด ไม่ทำก็เล่นงาน ทุกระบบต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ระบบทหาร ต้องมีหัวมีหาง และไม่ได้มีความเกรงใจในการทำงาน ยืนยันว่าฟังทุกเรื่องและสั่งงานทุกเรื่อง ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็มาบอกไม่ใช่ไม่ทำ หากคิดอะไรได้ก็มาบอกเพิ่มจะสั่งให้ และในส่วนของหลักการปรับครม. นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของตน หลักประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
"ทำไมคุณสนใจมากนักหนากับการปรับ ครม.เอาง่ายๆปรับนายกฯคนเดียวจบ มันจะได้เลิกวุ่นวายสักที ใครอยากเป็นไปหามา ทำไมมันวุ่นเหลือเกิน มันอยู่ที่วิธีทำงาน หากสั่งแล้วไม่ทำตามวิธีการที่ผมว่า หรือทำแล้วไม่มีประสิทธิภาพ ผมก็ปรับ วันนี้ผมหยิบเอาเรื่องที่คนอื่นไม่พูดมาพูดทั้งหมด หรือจะเอานายกฯที่พูดน้อยๆ ไม่ค่อยตอบ นายกฯที่นิ่งเอาไหม นายกฯคนนี้ เวลานี้ ไม่ใช่นายกฯแบบนั้น สถานการณ์คนละเรื่อง ทุกคนผ่านกาลเวลาและสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศมาทั้งสิ้น ผมมันมาด้วยอำนาจพิเศษคนละเรื่อง วิจารณ์ผมมากก็ไม่ได้ ผมไม่ชอบ เพราะท่านไม่ได้เลือกผมมา และผมจะสร้างความเข้าใจไปเรื่อยๆ จนตายจากกัน"
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า มีการติดตามรายงานตวามคืบหน้าในการทำงานทุกสัปดาห์ โดยจะมีการวางแผนและรายงานในทุกเดือนด้วย