บิ๊กตู่เผยรมต.บ่นเหนื่อยฉิบหาย วอนเลิกบิดเบือนปลุกคนต้านรบ.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง บิ๊กตู่เผยรมต.บ่นเหนื่อยฉิบหาย วอนเลิกบิดเบือนปลุกคนต้านรบ.
16 ก.ค. 58 เมื่อเวลา 09.15 น.ที่โรงแรมพล่าซ่าแอทธินี กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนา Thailand Competitiveness Conferrence 2015 ตอนหนึ่งว่า วันนี้ประเทศไทยมีปัญหาคือความไว้เนื้อเชื่อใจ ขณะที่รัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวกส่วนเอกชนมีหน้าที่ในการขับเคลื่อนการพัฒนา ซึ่งต้องเดินไปพร้อมกันจึงจะมีความก้าวหน้า ตนมาทำตรงนี้ไม่ได้ต้องการผลประโยชน์จากใครทั้งสิ้น แต่มาทำให้ประเทศพ้นจากกับดัก และต้องสร้างความเข้มแข็งไม่วาจะเป็นในเรื่องของการเกษตร อุตสาหกรรม แม้แต่ความมั่นคง แผนพัฒนาเศรษฐกิจที่มีอยู่ก็ยังไม่ได้รับการปฏิบัติทั้งหมด ซึ่งเราโชคดีที่มีผู้ประกอบการต่างประเทศที่พร้อมจะลงทุน แม้ค่าแรงบ้านเราจะสูงถึง 300 บาท เพราะเขาเห็นว่ประเทศไทยน่าอยู่มากขึ้นซึ่งในปี ปี 58 -59 กว่า70 เปอร์เซ็นต์ จะยืนยันลงทุนต่อ ขณะที่ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดก็ต้องใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดจนเมื่อยปาก อ่านจนตาแฉะ แต่ก็ยังไม่เข้าใจกัน อย่างเรื่องงบประมาณที่อนุมัติไปแล้ว เบิกจ่ายไม่ได้ ตรงนี้ต้องช่วยกันคิด
ตนมีอำนาจพิเศษจริงทำได้ทุกอย่าง แต่ทำได้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น เวลานี้กลายเป็นว่าคนไทยด้วยกันทำร้ายกันเอง การที่ตนเข้ามาเพราะประชาธิปไตยอยู่อย่างนี้ไม่ได้ ต้องเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหา รัฐบาลมาทำแบบนี้อย่าให้เกิดปัญหาอีก คนไทยอย่าคิดทำอะไรด้วยสมองตัวเองหมด ต้องเอาที่ต่างประเทศประเมินไทยมาปรับให้เข้ากับประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องที่เสียเกียรติหากจะเอามาปรับใช้ ตนใช้ประสบการณ์ทั้งชีวิต และไม่ได้คิดจะมาเป็นนายกฯ เพราะตนเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือจึงทำให้เป็นคนที่มีอะไรอยู่ในหัว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศเรา มีทั้งคนฉลาด คนระดับกลางและคนระดับล่าง ซึ่งคนระดับล่างมักถูกปลุกระดมให้ต่อต้าน
เราต้องทำให้ข้างล่างมาอยู่ข้างบนให้ได้ นี่คือสิ่งที่ต้องปฏิรูปด้านการศึกษา จึงได้วางยุทธศาสตร์ 20 ปี เขียนไว้เป็นแนวทาง เพื่อให้รัฐบาลหน้าทำต่อแต่จะทำหรือไม่นั้นอยู่ที่ท่านแล้ว เรื่องของประชาธิปไตยไปบังคับไม่ได้ หลังจากนี้ประเทศอยู่ที่ท่านทุกคนแล้ว เพราะเวลานี้เรามีเวลาที่จำกัด สิ่งที่ทำได้คือการแก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญเปิดให้มีการทำประชามติและมีการเลือกตั้ง ซึ่งที่ขอมาตนก็ทำให้หมด หลังจากนี้หากไม่มีข้อขัดแย้งอะไรแล้วตนก็กลับไปเป็นตาแก่ที่บ้าน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการปลูกข้าว พอรัฐบาลเสนอให้ไปปลูกอย่างอื่น โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเงินก็ไม่เข้าใจกัน
ทำไมเกิดการต่อต้านหรือมีคนไปบิดเบื่อนสร้างให้เกิดความขัดแย้งเวลานี้ปัญหาทุกอย่างมันพันกันไปหมดอย่างเรื่องเรือประมงที่ให้มีการจดทะเบียนก็มีปัญหา เพราะเราเอาทุกเรื่องมาเป็นปัญหามาพันกันเป็นห่วงโซ่ ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลคน 70 ล้านคน ไม่ใช่เหมือนในอดีตว่าแบ่งหน้าที่อันนี้หน้าที่รัฐบาล อันนี้หน้าที่ฝ่ายค้านจะต้องให้ความเป็นธรรม เวลานี้ใครมาว่าตนก็ไม่ตกใจ เพราะตนมองประเทศไทยสำคัญที่สุด อย่ามาต่อต้านตน ต่อต้านวันนี้ไม่มีประโยชน์ ถ้ามาต่อต้านอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็ถอยไปเรื่อยๆ ประเทศก็ไปไม่ได้ ยุทธศาสตร์ของชาติต้องเกิดวันนี้ผมทำให้ก่อนแล้วท่านมาทำต่อ ดังนั้นทุกคนต้องให้ความร่วมมือกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราทำงานกันอยู่ อาจมีปัญหาบ้าง ซึ่งรมต.โดนด่าทุกคน
เพราะความไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อมั่น บอกรู้จักคนนั้นคนนี่ ไปเปิดเว็ปไซต์ดูรมต.โดนด่าทุกคน สรุปไม่เหลือใครดีเลย เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ มีหตุผล มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่มาบอกว่าคนนี้ คนนั้นญาติกัน ถามว่าที่นั่งกันอยู่เขาก็อยู่ประเทศไทยมานาน บางคนเป็นรมต.เก่า บางคนเป็นข้าราชการเก่า ก็อยู่ด้วยกันมา แต่วันนี้ต้องทำให้สุจริตโปร่งใส เพราะถ้าทำไม่มีดีก็อยู่ไม่ได้ ไม่ใช่เป็นการปรับ แต่เป็นเพราะประชาชนออกมาขับไบ่คนเหล่านี้จนอยู่ในประเทศไม่ได้ ตนเป็นห่วงเรื่องการขยายข่าวความขัดแย้ง ต่างประเทศก็อ่านหนังสือพิมพ์ของเรา ซึ่งก็แล้วแต่ท่าน วันหน้าก็เรื่องปฏิรูปกันเเล้วกัน เวลาตนไปพูดกับใคร ก็จะบอกว่าตนทำงานอยู่ 3 อย่าง คือสร้างความไว้เนื้อเชื่อกันซึ่งกันและกัน ลดความหวาดระแวง และผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
"คำว่าโรดแมปของผม คือ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ว่ามีรัฐธรรมนูญ มีการทำประชามติ มีการเลือกตั้งซึ่งมีขั้นตอนมีเวลาของมันในปีหน้า ถ้าไม่ผ่านก็ต้องช่วยตนว่าจะทำอย่างไร จะเอารัฐบาลอย่างไร เลือกตั้งอย่างไรยังไม่รู้มันเขียนไว้อย่างนั้นหรือถ้าไม่เขียนก็ไม่ได้ เพราะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญต้องบอกมิตรประเทศให้เข้าใจเราด้วย ตนไม่ได้ต้องการไปต่อท่ออำนาจอะไร วันนี้รมต.ลาออกกันหมดแล้ว บอกไม่ไหวเหนื่อยฉิบหาย ไม่คิดว่าจะเหนื่อยขนาดนี้ มาแล้วยังไม่ได้รับคำชม ยังโดนด่าอีก อยู่เฉยๆดีกว่า บางคนไปถ่ายรูปกับตนและบอกว่าตนเห็นด้วย ซึ่งไม่ใช่คนเราเจอกันก็คุยกัน แต่เรื่องผลประโยชน์ตนไม่คุยด้วย เพื่อนตนตนยังไม่คุยเลย โกรธกันไปเยอะแล้ว เพื่อนทิ้งไปเยอะแล้ว ครอบครัวก็เหนื่อยเป็นห่วง แต่ก็ต้องทำเพราะประเทศสำคัญที่สุด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า
ตนไม่ใช่ผู้วิเศษขี่ม้าขาว ม้าที่ตนขี่ก็เป๋อยู่ตลอด เพราะมีพวกที่เกะกะเยอะทุกคนต้องช่วยตน อย่าให้มีอะไรรบกวนการทำงานในวนนี้ ด้วยการสร้างความเข้าใจ อย่าคิดจะใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว ใช้มาตรา 44 ทำได้ทั้งหมดมันไม่ใช่ ถ้าทำก็ต้องปะทะกับคนเป็นหมื่น ตนถามว่าคนไทยหรือเปล่าก็คนไทยทั้งนั้น เราต้องให้เขาเรียนรู้และต้องช่วยเปลี่ยนผ่านตรงนี้ให้ได้ และต้องใช้เวลาไม่นานเกินไป