บิ๊กตู่ ห่วงความขัดแย้งใน สธ. ชี้ ประชานิยมบัตรทอง30บาท ทำรพ.เจ๊งทั่วประเทศ!

บิ๊กตู่ ห่วงความขัดแย้งใน สธ. ชี้ ประชานิยมบัตรทอง30บาท ทำรพ.เจ๊งทั่วประเทศ!

“บิ๊กตู่” เผยลงนามข้อสรุปให้ชัด ก่อนย้าย “หมอณรงค์” กลับนั่งปลัดสธ. ห่วงผลกระทบขัดแย้งในองค์กร เหน็บ 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นโครงการประชานิยม

พล.ประยุทธ์ กล่าวถึง กระแสข่าวว่ามีการลงนามให้นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขในขณะนี้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี

กลับไปทำหน้าที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขต่อ ว่า ที่มีข่าวว่าตนได้ลงนามไปแล้วนั้น ความจริงเป็นการลงนามในข้อสรุป โดยให้การไปดำเนินการต่อให้ชัดเจนมากขึ้นและถ้ามีความชัดเจนขึ้นก็ให้เขากลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม ความหมายของตนคือตรงนี้ที่มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีไปดูแลในเรื่องดังกล่าว เพราะนายวิษณุ เป็นรองนายกฯที่ดูแลฝ่ายกฎหมายก็ไปทำในแง่ของการนำผลสอบสวนแต่ละอันมาวิเคราะห์ว่าจะสรุปอย่างไร เพราะมีการสรุปว่ามีเหตุการณ์ไม่ปกติในกระทรวงสาธารณสุข แต่ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่ามีความผิดอะไรพร้อมเสนอให้นายกฯหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ซึ่งเหตุผลตรงนี้ไม่ชัดเจน ถ้าตอบมาแค่นี้คงไม่ต้องสอบสวน ตนทำเองก็ได้ แต่เนื่องจากปัญหามีความซับซ้อนในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ข้าราชการมีความเห็นต่างกันต้องหาข้อยุติให้ได้ ตอนนี้มีเรื่องของสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)เข้ามาอีก

 เป็นเรื่องข้อสังเกตขององค์กรอิสระต่างๆเข้ามาอีกก็ต้องสอบกันทั้งหมด สิ่งที่ตนเป็นห่วง ไม่ได้ห่วงว่าใครจะกลับ ใครจะไป สิ่งที่ตนเป็นห่วงก็คือสิ่งที่มีผลกระทบอันเกิดขึ้นจากความขัดแย้ง การใช้สิทธิตามหลักประกันจะทำอย่างไรก็ต้องไปดูในจุดนี้ก่อน ในเรื่องความขัดแย้งของคนก็ต้องมีการสอบออกมา ซึ่งก็ต้องใช้เวลาแต่ทำอย่างไรการใช้จ่ายเงินงบประกันสังคมจะออกมาได้จากที่ยังติดค้างอยู่ เราต้องมองประเด็นที่ผลประโยชน์ชาติและประชาชนมาก่อน เรื่องตัวบุคคลเป็นเรื่องของกลไก และกฎหมายที่ต้องว่ากัน

เมื่อถามว่าในเรื่องของสปสช.จะมีทางออกที่ดีหรือไม่หลังจากที่เกิดความขัดแย้งค่อนข้างรุนแรงในองค์กร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า


รัฐกำลังทำอยู่ในเรื่องการลดความขัดแย้ง ตนเป็นคนทำแต่บางคนทำให้เกิดความขัดแย้งมีการขยายความกันเรื่อยเปื่อยไม่จบทุกคนก็รู้ดี อย่างไรก็ตามสปสช.ก็ต้องมาแก้ไขเพื่อให้เกิดการยอมรับทั้ง 2 ฝ่าย เพราะทุกวันนี้ทั้งหมดชนบท หมอสาธารณสุข และอีกหลายหมอวุ่นกันไปหมด ก็ต้องขอร้องสื่อมวลชนให้ช่วยกันอธิบายว่าตนและรัฐบาลกำลังแก้ปัญหาในจุดนี้อยู่

เมื่อถามว่าเป็นเพราะเงินงบประมาณในส่วนนี้มีเยอะมากเกินไปหรือไม่จึงทำให้เกิดปัญหา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า


 มันเยอะยังไง วันนี้มันบางที่ไหนกันเหล่า อย่าไปพูดว่ามีการทะเลาะกันมายาวนาน แต่เป็นเพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่สนใจและไม่ใส่ใจในเรื่องของงบประมาณสาธารณสุข มันมีไม่พอที่ไม่พอ เพราะไปทำโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ 30บาทรักษาทุกโรค เป็นไปได้หรือไม่ ความจริงผมไม่อยากจะพูด โครงการรักษาทุกโรคนั้น เป็นโครงการประชานิยม ประชาชนได้รับประโยชน์ ตนไปพูดอะไรไม่ได้ แต่อยากถามว่าเรามีความพร้อมหรือยัง เฉลี่ยแล้วอยู่ที่คนละ 2,900 บาท แล้วรักษาพอหรือไม่ แล้วโรงพยาบาลจะรับไหวหรือไม่ในงบประมาณแต่ 2,900 บาท มันรับไม่ไหวโรงพยาบาลก็จะเจ๊ง พอเจ๊งแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ รัฐบาลก็ต้องไปหางบประมาณให้กับสปสช.เข้ามาเพิ่มให้เท่านั้นเอง จำนวนเงินดูเหมือนมากแต่เมื่อนำไปหารเฉลี่ยเป็นเงินเพียงนิดเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนขอถามว่าประเทศไทยพร้อมแล้วหรือยังอีก 190กว่าประเทศยังไม่เห็นมีใครทำเลยในโครงการแบบนี้ มีทำเพียงกี่ประเทศเชียว

อยากถามว่ารัฐบาลไหนทำมาแล้วผมจะไปล้มได้หรือไม่ มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องแต่เป็นเรื่องของการบิดเบือนในเกือบจะทุกเรื่อง จึงทำให้เป็นภาระในวันนี้  แล้วก็ออกมาเรียบร้อง มันจะเอาอะไรจากผมกันเล่า ถ้าผมสามารถทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้นก็ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรกันต่อไปงบประมาณสปสช.จะต้องทำอย่างไร ส่วนไหนจะให้กับโรงพยาบาลสังกัดกรนะทรวงสาธารณสุข ส่วนไหนจะเป็นเรื่องของโรงพยาบาลเอกชนก็ต้องนำไปเติมให้ ส่วนตัวเชื่อว่าในวันข้างหน้าอีกไม่กี่ปีโรงพยาบาลจะเจ๊งทั้งหมด แต่ก็ยังมีคนชื่อชมคนที่คิดโครงการนี้ออกมา แล้วจะให้ผมพูดเป็นอย่างได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นสื่อมวลชนก็จะมาด่าตน เราดูแลทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนรวยคนจน มีสิทธิเท่าเทียมกันทั้งหมด ถึงวันนี้ตนไม่ได้ฝืนและคงไปยกเลิกไม่ได้เพียงแต่ต้องคิดว่าต้องทำอย่างไรให้มีเงินมากขึ้น

“วันนี้ถ้าทุกคนเรียกร้องทั้งหมดปัญหาก็มีเป็น 100 เรื่องต้องใช้เงินเป็นพันๆล้านบาท จะเอาทุกอย่างแต่รายได้ไม่มีสักบาทแล้วจะเอารายได้มากันจากไหนทุกวันนี้เราลงทุนเพื่ออนาคต ก็ต้องมาดูกันว่าในวันข้างหน้าใครจะเข้ามาสร้างอนาคตให้กับประเทศ ถ้ามั่วแต่ไปสร้างความขัดแย้งก็จะกลายเป็นปัญหาทั้งหมด กลายเป็นผมขัดแย้งกับสื่อมวลชนและไปขัดแย้งกับกลุ่มนั้น กลุ่มโน้นซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ผมไม่อยากไปขัดแย้งกับใคร ผมเข้ามาก็ต้องการที่จะหยุดความขัดแย้งทั้งหมดเดินหน้าประเทศและวางอนาคตของประเทศให้ได้ แต่สื่อฯก็พยายามที่จะเอาเรื่องอื่นมากระทบกับผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประมง ที่ดิน อย่าลืมว่าทั้งหมดบิดเบือนมาทั้งหมดแล้ว แล้ววันข้างหน้าเราจะอยู่แบบนี้กันหรืออย่างไร ถ้าอยากจะอยู่กันแบบนี้ก็ไปเลือกตั้งกันเลยแล้วก็เอาไป แล้วทำให้ได้ก็แล้วกัน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์