ชวน แนะจับตา ระบอบทักษิณ เลวร้ายฝังรากลึก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2549 10:25 น.

ชวน หลีกภัย แนะช่วยกันติดตาม ระบอบทักษิณ ว่ายังคงอยู่ต่อไปหรือไม่ แม้มีการเปลี่ยนตัวบุคคล ชี้สุดอันตราย หวั่นฝังรากลึกครอบงำองค์กรอิสระเหมือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน เตือนรัฐบาลไม่ควรนำเรื่องการจัดงานครองราชย์ 60 ปีในหลวง มาอ้างในการเว้นวรรคไม่รับตำแหน่งนายกฯ

วันนี้ (5 เม.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเก็บตกจากเนชั่น กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ประกาศเว้นวรรคไม่รับตำแหน่งนายกฯว่า เรื่องนี้อย่าเพิ่งไปตกใจหรือดีใจ แต่ต้องดูว่าการประกาศของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการปลดเปลื้องระบบทักษิณออกไปหรือไม่ หากตัวไปแต่การปฏิบัติยังอยู่ก็จะเป็นความเลวร้ายของสังคมไทยต่อไปเหมือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกปฏิบัติในเรื่องของการเลี่ยงภาษี การประกาศให้งบประมาณกับจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน การครอบงำองค์กรอิสระ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากระบอบทักษิณยังคงฝังรากลึกอยู่

แม้ว่านายกฯ จะไม่รับตำแหน่งแล้วผลักดันคนของพรรคไทยรักไทยขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือนายโภคิน พลกุล ซึ่งตัวบุคคลเปลี่ยนแต่หากระบอบทักษิณยังถูกนำมาใช้ ประชาชนจะรับได้หรือไม่ โดยเฉพาะการแทรกแซงองค์กรอิสระที่ผ่านมา ตัวบุคคลในองค์กรอิสระก็ยังอยู่ครบถ้วน การแซกแทรงดังกล่าวทำให้สูญเสียมาตรฐานในการทำงาน อาทิ กกต.ที่มีการเลือกปฏิบัติกรณีที่มีการร้องเรียนในลักษณะพฤติกรรมคล้ายๆ แต่ กกต.จะพิจารณาแตกต่างกัน ดังนั้น ต้องจับตาติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะตัวระบอบทักษิณเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การประกาศไม่รับตำแหน่งนายกฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะช่วยลดความรู้สึกมาได้ระดับหนึ่ง แต่คนที่เขาติดตามเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งเขารู้สึกแค่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าระบอบทักษิณจะหมดไป รัฐบาลนำเรื่องการจัดงานสิริราชสมบัติของพระเจ้าอยู่หัวขึ้นมาเป็นเหตุผล ส่วนตัวคิดว่าไม่ควรนำเรื่องนี้มาอ้าง เพราะเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องปฏิบัติด้วยความจงรักภักดีต่อในหลวงอยู่แล้ว ไม่เฉพาะการจัดงานครองราชย์ครบ 60 ปี ดังนั้น ตนอยากให้รัฐบาลมีความระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ

ส่วนที่รัฐบาลพูดเรื่องความสมานฉันท์เพื่อให้นำไปปฎิบัตินั้น ผมเห็นว่าบางอย่างประชาชนก็ไม่ควรสมานฉันท์หรือยอมรับกับรัฐบาล อย่างเรื่องการจัดงบประมาณลงจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน ซึ่งไม่ถูกต้อง การปราบปรามยาเสพติด และปัญหาภาคใต้ที่ใช้วิธีอุ้มฆ่า เรื่องเหล่านี้ทำให้สูญเสียความเสมอภาคในสังคม ทำให้เกิดความแตกแยก ดังนั้น จะเห็นว่าระบอบทักษิณเป็นความเลวร้ายที่ชัดเจนที่ยังไม่สามารถกำจัดได้ ประธานสภาที่ปรึกษาฯ กล่าว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2549 13:18 น.

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ระบุ แม้ว ขอเว้นวรรค แต่ระบอบทักษิณยังคงอยู่ ชี้ไม่ว่าใครนั่งนายกฯ หวั่นยึดนโยบายประชานิยมอีกรอบ ย้ำพรรคยังไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมภาคใต้

วันนี้ (5 เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 เม.ย.) มีความหมายว่าไม่ลาอออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการจนกว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่ และถ้าสมมติว่าสภาสามารถเปิดประชุมได้ มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ จะด้วยเหตุผลใดก็ตามก็จะมีสมาชิกพรรคไทยรักไทยคนใดคนหนึ่งมาทำหน้าที่เป็นนายกฯ แทน แต่จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะเป็นหัวหน้าพรรค ดังนั้นระบอบทักษิณยังคงอยู่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลของระบอบทักษิณยังคงอยู่จะมีผลอะไรเกิดขึ้นกับสังคมถึงแม้จะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ นายจุรินทร์ กล่าวว่า คงต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูปทางการเมือง ซึ่งหลายฝ่ายก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ว่าท้ายที่สุดจะไปได้ตามวัตถุประสงค์ที่ทุกฝ่ายอยากเห็นหรือไม่ คือการปฏิรูปการเมือง ซึ่งมาจากคนกลางและนำไปสู่ทิศทางที่ดีกว่าปัจจุบัน มีกติกาที่เป็นธรรมกว่า

เมื่อถามว่า พรรคไทยรักไทยพยายามบอกกับสังคมว่า พ.ต.ท.ทักษิณลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ถือว่าทุกอย่างจบแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกอย่างยังอยู่ในมือพรรคไทยรักไทย และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ต.ท.ทักษิณเหมือนเดิม ซึ่งเรื่องการตรวจสอบก็ต้องติดตามต่อไป ซึ่งในที่สุดแล้วถ้ามีรัฐบาลชุดใหม่เกิดขึ้นได้จริงและสภาชุดใหม่เกิดขึ้นได้ ถ้าสมมติไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากคนกลาง การตรวจสอบจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ เรื่องนี้ก็ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่

นายจุรินทร์ ยังแสดงความเป็นห่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังจะนำนโยบายประชานิยมมาใช้ เพราะ ณ วันนี้ผลของนโยบายประชานิยมปรากฏออกมาชัดเจนว่าในที่สุดสร้างปัญหาอย่างไร ทำให้ประชาชนเป็นหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เช่น ธนาคารคนจนทำให้ประชาชนมีหนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 80 กองทุนหมู่บ้านร้อยละ 47.9 พักหนี้เกษตรกร ร้อยละ 48.9 วันนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะดุลเงินสดมีปัญหามากเพราะรัฐบาลถังแตกจริงๆ เมื่อดูตัวเลขของตั๋วเงินคลัง ปรากฏว่าก่อน พ.ต.ท.ทักษิณมารับตำแหน่งในปี 2542 ประมาณ 5-6 หมื่นบ้านบาท แต่มาถึงวันนี้ 2.5 แสนบาทแล้ว ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า 38 เขตเลือกตั้งที่ กกต.ประกาศให้รับสมัครใหม่ พรรคประชาธิปัตย์จะส่งคนลงสมัครหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ส่ง เราประกาศชัดเจนว่าทั้ง 3 พรรคการเมืองจะไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่จะส่งหลังการปฏิรูปการเมือง ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ประชาชนว่าจะตัดสินใจอย่างไร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรค และเห็นว่ากติกาของ กกต.ที่ออกมาวันนี้ถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่าย คือแทนที่จะให้มีการลงคะแนนใหม่ในเขตที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว ซึ่งจะต้องได้ร้อยละ 20 ขึ้นไป ปรากฏว่ามีการรับสมัครใหม่เพื่อให้มีผู้สมัครเกินกว่า 1 คนขึ้นไป แล้วไม่ต้องใช้เกณฑ์ ร้อยละ 20 จึงเกิดคำถามตามมาว่า เป็นมติที่ออกมาอุ้มพรรคการเมืองใหญ่บางพรรคหรือผู้สมัครพรรคการเองใหญ่บางพรรค ซึ่ง กกต.ต้องตอบคำถาม

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2549 11:56 น.

สุเทพ เทือกสุบรรณ ชี้ ทักษิณ ทำถูกตัดสินใจเว้นวรรค ระบุดึงดันต่อไปบ้านเมืองมีแต่เสียหาย-สร้างความแตกแยกมากขึ้น ยันไม่เคยกลั่นแกล้ง แต่ทำตัวเอง เตรียมประชุมพรรคกำหนดทิศทางเน้นปฏิรูปการเมือง ย้ำเดินหน้าตรวจสอบไม่ว่าใครจะขึ้นมานั่งนายกฯแทน


วันนี้ (5 เม.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ภายหลังการประกาศไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า ทันทีที่ทราบเรื่องว่านายกฯ แสดงท่าทีไม่รับตำแหน่ง ตนได้นัดประชุมอดีต ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคในวันนี้เวลา 14.00 น. โดยจะประชุมว่าเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้พรรคควรจะร่วมมืออย่างไรบ้างเพื่อให้บรรยากาศของความสมานฉันท์ตามที่ประชาชนต้องการเป็นไปด้วยความราบรื่น เพราะเราก็มีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว และยังเป็นปีที่พรรคประชาธิปัตย์ครบ 60 ปี เราตั้งใจที่จะทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสที่ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี แต่ไปเสียเวลาอยู่กับการเมืองเสีย1-2 เดือน แต่ก็ไม่สายเกินไปโดยตั้งแต่วันที่เมษายนเป็นต้นไป พรรคก็จะเริ่มลงมือทำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกับประชาชน

นายสุเทพ กล่าวว่า การที่พรรคต้องประชุมหารือกันเพราะเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินของตนส่วนใหญ่ เวลามีเรื่องอะไรให้ต้องตัดสินใจจะต้องปรึกษากับหลายๆ คนเพราะค่อนข้างเป็นประชาธิปไตยมาก แต่อย่าให้ต้องกังวลใจ คนของพรรคประชาธิปัตย์เป็นลูกชาวบ้าน มาจากชาวบ้าน ฉะนั้นจะคิดอะไรก็เหมือนกับชาวบ้านคิด ไม่มีอะไรที่สลับซับซ้อนเพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่หัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรคเป็นคนตัดสินใจ เป็นเรื่องของสมาชิกพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรคจะเสนอแนวทางใดบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะเสนอมุมมองและทัศนะต่างๆ ต่อที่ประชุม และจะเรียนต่อที่ประชุมว่าเท่าที่ตนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตนเห็นว่าเราควรจะทำอย่างไร เพราะเราตั้งใจที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดบรรยากาศของความสมานฉันท์เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง เพราะหลักใหญ่ของเราคือการปฏิรูปการเมือง เราต้องให้ความหวังกับประชาชนว่าประเทศไทยต้องมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบและบริสุทธิ์เหมือนกับอาณารยประเทศ

เมื่อถามว่า ถึงวันนี้เมื่อนายกฯ ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกฯ แล้วในฐานะที่เคยเป็นเพื่อนกันมามีอะไรที่จะบอกกับ พ.ต.ท.ทักษิณบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า จริงแล้วๆ ตนก็คุยโม้ไปอย่างนั้น ไม่ได้เป็นเพื่อนอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่รู้จักกัน เคยคบค้ากันบ้าง ตนก็คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ตัดสินใจถูกต้องในเวลาและโอกาสอย่างนี้ เพราะถ้ายังดึงดันต่อไปก็มีแต่จะทำให้เกิดความเสียหายให้กับบ้านเมือง เกิดความแตกแยกเกิดปัญหาตามมาอีกมากมายและหาข้อยุติไม่ได้

ผมคิดว่าการตัดสินใจของท่านนายกฯ ไม่ได้มาจากใครกลั่นแกล้งทางการเมือง ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ท่านทำตัวเองทั้งสิ้น ท่านก็พูดในหลายโอกาสแล้วว่าทำอะไรลงไปอย่างไร บรรยากาศอย่างนี้ผมไม่ขอวิจารณ์เพิ่มเติม เอาเป็นว่าขอชื่นชมว่าท่านตัดสินใจดีแล้ว และในซีกพวกผมก็จะพยายามร่วมมือให้ดีที่สุด

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการเปิดเจรจาระหว่าง 4 พรรคการเมืองเพื่อหาทางออก นายสุเทพ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ดีซึ่งฝ่ายค้านเสนอมาตั้งแต่แรกแล้วแต่นายกฯ เมินเฉย แต่เมื่อเปลี่ยนท่าทีแล้วก็ต้องดูว่ามีอะไรจะร่วมมือกันได้อีก

นายสุเทพยังกล่าวถึงอนาคตทางการเมืองหลังจากนี้ว่า การเมืองก็ยังยาวเกินไปที่จะสรุปได้ แต่ถ้าทุกคนตระหนักว่าประชาชนต้องการอะไร การคิดหรือการตัดสินใจกระทำการใดๆก็จะมีเหตุผลมากขึ้น เช่นกรณีของนายกฯเมื่อเห็นว่าประชาชนได้ลงคะแนนไม่เอานายกฯ ถึง 12 ล้านเสียง ท่านก็ต้องได้ความคิดแล้ว เมื่อท่านคิดได้ก็ดีแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคกังวลหรือไม่กับบุคคลที่เข้ามาแทน พ.ต.ท.ทักษิณ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่กังวลว่ากันไปตามกลไกลกติกา พรรคประชาธิปัตย์ไม่ติดยึดกับตรงนั้น แต่สิ่งที่เราตั้งใจมากขณะนี้คือการปฏิรูปการเมืองต้องทำอย่างจริงจังและต้องเป็นไปเพื่อให้มีระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์จะยังคงเดินหน้าตรวจสอบอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความถูกต้องในบ้านเมือง เพราะต้องมีหลักการมาตรฐานที่ทำให้ประชาชนไว้วางใจได้ว่าทุกฝ่ายทำตามกฎเกณฑ์กติกาตามกฎหมายโดยถูกต้อง ทั้งนี้เห็นว่า กกต.ควรต้องทบทวนตัวเองให้มากเพราะเมื่อสถานการณ์คลี่คลายมาในลักษณะนี้แล้ว หาก กกต.ยังทำตัวไม่เป็นอิสระก็จะถูกประชาชนตำหนิมากขึ้น