จากกรณี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 6 และ 7 พ.ค.2558 หลังมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรีอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมิชอบ
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สิน 75,014,334 บาท เมื่อเทียบกับสมัยที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งล่าสุด เมื่อช่วงพ้นตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พ.ค.57 ที่มีทรัพย์สิน 396,696,211 บาท พบว่าพล.ต.อ.ประชามีทรัพย์สินลดลงถึง 321 ล้านบาท เนื่องจากพล.ต.อ.ประชาได้แจ้งสถานะการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 6 พ.ค.58 ว่า ได้หย่าขาดกับคุณหญิงวารุณี พรหมนอก คู่สมรสแล้ว เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมาทำให้ทรัพย์สินในส่วนของคู่สมรสหายไปถึง 286 ล้านบาท ประกอบกับทรัพย์สินส่วนตัวของ พล.ต.อ.ประชา ก็ลดลง 30 กว่าล้านบาทในส่วนของที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะทำให้ทรัพย์สินปัจจุบันของ พล.ต.อ.ประชาเหลือเพียง 75 ล้านบาท
ทั้งนี้ในหนังสือใบสำคัญการหย่าระหว่าง พล.ต.อ.ประชาพรหมนอก กับคุณหญิงวารุณี พรหมนอก(บำรุงสวัสดิ์) ที่จดทะเบียนที่ อ.เมืองจ.อุดรธานี ในวันที่ 16 ก.พ.2558 ระบุรายละเอียดว่า เป็นหนังสือหย่าโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย โดยตามที่ทั้ง 2 คน ได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมายเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2510 และมีบุตรด้วยกัน 4 คน คือ1.พ.ต.อ.ชัชธรรม พรหมนอก (เสียชีวิต) 2.นางธารศรี ศรีวรขาน 3.นางบุดีพรเพชรพนมพร และ 4.พ.ต.อ.จิรวัฒน์ พรหมนอก บัดนี้คู่สมรสทั้งสองฝ่ายไม่ประสงค์จะอยู่กินฉันสามีภรรยากันอีกต่อไป เนื่องจากฝ่ายชายประพฤตินอกใจฝ่ายหญิงหลายครั้ง จนฝ่ายหญิงจับได้และฝ่ายชายจำนนด้วยหลักฐาน จึงได้ยอมรับผิดการกระทำของฝ่ายชาย ทำให้ฝ่ายหญิงเกิดความอับอายต่อเพื่อนฝูงญาติพี่น้อง ผู้หลักผู้ใหญ่ที่สนิทสนมกันแม้การกระทำดังกล่าว จะไม่เป็นที่รับรู้ของคนทั่วไป เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นผู้มีชื่อเสียง และเป็นที่นับหน้าถือตา จึงไม่อยากให้ข่าวแพร่ออกไปการกระทำของฝ่ายชายดังกล่าวนำมาซึ่งความอับอายและทุกข์ใจอย่างแสนสาหัสต่อฝ่ายหญิงหลายต่อหลายครั้งหากยังเป็นสามีภรรยากันต่อไป ก็จะมีแต่ความทุกข์ใจไม่รู้ที่สิ้นสุด
ทั้งสองฝ่ายยินยอมที่จะจดทะเบียนหย่าและได้ตกลงกันทำหนังสือสัญญานี้ โดยให้มีผลนับแต่วันที่นายทะเบียน จดทะเบียนแล้วเหตุแห่งการหย่าครั้งนี้ เกิดจากการกระทำของฝ่ายชายแต่ฝ่ายเดียว ฝ่ายหญิงเรียกร้องให้แบ่งทรัพย์สิน ซึ่งฝ่ายชายก็ยินยอม โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1.บ้านพร้อมที่ดิน หรือที่ดินเปล่า ที่เป็นชื่อฝ่ายหญิง รวมทั้งทรัพย์สินอื่นที่เป็นชื่อฝ่ายหญิงให้เป็นของฝ่ายหญิง 2.บัญชีเงินฝากธนาคารที่เป็นชื่อฝ่ายหญิงให้เป็นของฝ่ายหญิง 3.บัญชีเงินฝากธนาคารที่เป็นชื่อฝ่ายชายให้เป็นของฝ่ายชาย 4.ทอง ทองรูปพรรณ สร้อยแหวน นาฬิกา เครื่องประดับทั้งหมด ที่เป็นของฝ่ายหญิงให้เป็นของฝ่ายหญิง 5.ทองทองรูปพรรณ สร้อย แหวน นาฬิกา เครื่องประดับทั้งหมดที่เป็นของฝ่ายชายให้แบ่งกับฝ่ายหญิงคนละครึ่ง 6.แบ่งรถยนต์ให้ 4 คัน ได้แก่ยี่ห้อ โรลศ์-รอยซ์ 1 คัน ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ 2 คัน โตโยต้า 1 คัน
7.ที่ดินเปล่าตามโฉนดเลขที่ 28439 ต.ปากคลอกอ.ถลาง จ.ภูเก็ต และสิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดินตามโฉนดเลขที่ 4958 แขวงตลาดบางเขนเขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ในส่วนที่เป็นของฝ่ายชาย ยกให้นางนุดีพร เพชรพนมพร (บุตรสาว)และให้ฝ่ายชายมีสิทธิ์พักอาศัยได้ 8.หนี้สินทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนจดทะเบียนหย่าให้ฝ่ายชายรับผิดชอบ และ 9.บ้านเลขที่ 19/199 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯให้ฝ่ายมีสิทธิพักได้เป็นครั้งคราว ทั้งนี้หากมีการแบ่งทรัพย์สินนอกจากระบุไว้ในสัญญานี้ ให้ทำเป็นข้อตกลง และให้มีพยานรับรองส่วนการใช้คำนำหน้านาม ฝ่ายหญิงประสงค์ใช้คำนำหน้านามตามยศ/ฐานัดรศักดิ์เดิม
โดยนายธวัชชัย ศิริสธนพันธ์ ผอ.สำนักตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินภาคการเมืองกล่าวว่า เป็นเพียงการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ได้ตรวจสอบเชิงลึกว่า ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพราะเหตุใด ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชาที่ได้หย่ากับคู่สมรสแล้ว จึงไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินในส่วนของคู่สมรส