ทั้งนี้ (24มิ.ย.) ตำรวจญี่ปุ่นจะฝากขัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ในวันนี้ ซึ่งกฎหมายญี่ปุ่น กำหนดบทลงโทษสำหรับความผิดลักษณะดังกล่าวไว้ค่อนข้างสูง คือจำคุกไม่เกิน 10 ปี
กล่าวสำหรับ "บิ๊กแจ๊ส" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ในวัย 62 ซึ่งคงทราบกันดีกับวลี "มีวันนี้เพราะพี่ให้" ช่วงรับตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล" ใหม่ๆ
กรณีภาพถ่ายพร้อมลายมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เขียนบนรูปว่า "ขอแสดงความยินดีกับแจ๊สน้องรัก ขอให้มีความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นที่รักของประชาชนและเพื่อนตำรวจ รัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (29 มิ.ย.55)"
พร้อมป้ายจารึกข้อความ "มีวันนี้เพราะพี่ให้" เหนือป้ายชื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์
น่าสนใจเส้นทางการรับราชการตำรวจของ "บิ๊กแจ๊ส" เคยเป็นรองผู้การฯกองปราบ ปี43 ขยับขึ้นเป็นผู้การฯที่นราธิวาส ปี46 แต่ที่ฮือฮาเป็นข่าวบ่อยครั้งก็โยกมารับตำแหน่งผู้การฯกองปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี เมื่อปี 48 ช่วงรัฐบาลทักษิณ สมัย2
แต่เมื่อทหารยึดอำนาจ ปี49 นำโดย พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ทำให้ชื่อ "น้องแจ๊ส" ของพี่ใหญ่ชินวัตรก็เงียบหาย กระทั่งพรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาล ทำให้ "บิ๊กแจ๊ส" ได้ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ปี50 แล้วก็เงียบหายไปช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ต่อมา พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาล นำโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โอกาส "บิ๊กแจ๊ส" ขึ้นเป็นรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เช่นเดียวกัน และก้าวเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในกลางปีถัดมา (2555)
มรสุมการเมืองจากม็อบ กปปส. ทำให้ "ยิ่งลักษณ์" ประกาศยุบสภา ปลายปี56 และยังเป็นรัฐบาลรักษาการ เตรียมเลือกตั้ง ซึ่งมติก.ตร.เคยเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายพล.ต.ท.คำรณวิทย์ จากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 (ผบช.ภ.5) ดูแลพื้นที่ภาคเหนืออีกด้วย
เมื่อทหารยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ทำให้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาการแทน ผบตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 256/2557 ให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากตำแหน่ง
หลังจากนั้น ข่าวคราวก็เงียบหายไปอีกครั้ง จนปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ได้หันมาเปิดคลินิกรักษาคนป่วยไมเกรน อัมพฤกษ์และอัมพาต
แต่ไม่วายยังเจอข่าวร้ายอีก หลังเกิดเหตุขว้างระเบิดศาลอาญาฯ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหามีเบอร์โทรศัพท์มือถือของ "บิ๊กแจ๊ส" ซึ่งทำให้เจ้าตัวต้องออกมาชี้แจง (9มี.ค.) ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และก็ไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหามาก่อน ส่วนเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ผู้ต้องสงสัยในคดีอ้างนั้น
"เลิกใช้ไปนานแล้ว และขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องคดีระเบิด โดยขอวอนให้อย่าดึงเข้าไปเกี่ยวโยงกับคดีดังกล่าว"
ล่าสุด (24มิ.ย.) ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้จัดการฟุตบอลทีมการท่าเรือและเป็นบุตรชายของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้นำหลักฐานเอกสารทะเบียนอาวุธปืนต่างๆ เกี่ยวกับอาวุธปืน นำไปแสดงให้เจ้าหน้าที่ทางประเทศญี่ปุ่นได้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งได้บินไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว
ขณะที่ แหล่งข่าวจากคณะที่ไปดูงานเรื่องโรงงานขยะไฟฟ้า แจ้งกลับมาว่า ขณะนี้เรื่องทั้งหมดได้จบแล้ว และคณะที่บางส่วนยังอยู่เป็นเพื่อนกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้พากันออกมาทานข้าวกันแล้ว และพร้อมที่จะบินกลับประเทศไทยในวันนี้เลย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจนว่า "บิ๊กแจ๊ส" รอดพ้นจากคดีนี้แล้วหรือยัง ท่ามกลางกระแสความสนใจของ "คอการเมือง" ปมไปเที่ยวญี่ปุ่น ขาไป "ง่าย" แต่ขากลับเจอเรื่อง "ยุ่งยาก" เสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางคล้ายชะตาวิบากเหมือน "พี่ผู้ให้" คนแดนไกลคนนั้น!!