Q : นี่ถือเป็นช่วงที่รอเหตุการณ์การเมืองเป็นปกติ หรืออันนี้เป็นกิจกรรมหลักตลอดไป คำถามก็คือคุณจะกลับไปเล่นการเมืองอีกไหม
ยัง ไงเราก็ต้องกลับไปยังเส้นทางการเมือง เราก็รอการเลือกตั้งอยู่แล้วค่ะ ในเขตดุสิต กับราชเทวี ที่ลงครั้งที่แล้ว ทางพรรคก็ยังมอบหมายให้เราเป็นคนที่ดูแลพื้นที่นั้นอยู่ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนเหมือนเดิม ในเมื่อเราเลือกที่จะมาในด้านนี้แล้ว ต้องทำทางด้านนี้ให้เต็มที่ค่ะ ถึงจะไม่มีการเลือกตั้งก็ตาม แต่ว่าเราก็พร้อมเสมอ
Q : ช่วงเวลาที่ปราศจากการเมืองและความขัดแย้งบนท้องถนนเป็นช่วงที่มีความสุข?
เรา ก็พยายามหาความสุขจากตรงนี้นะคะ อย่างที่ว่าเราโดนเว้นวรรคการเมือง ในเมื่อเรายังทำอะไรที่เป็นทางการไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้ คือเป็นงานที่เราทำอยู่ด้วย ก็ถือว่าโอเค
Q : เห็นว่าที่ผ่านมาเพิ่งเสีย คูณปู่ (นายจำนงค์ ภิรมย์ภักดี) ไปด้วย
ใช่ ค่ะ ท่านไม่สบายมานานแล้ว แล้วก็ครอบครัวก็ตัดสินใจว่าโอเค ผ่าตัด ท่านนอนโคม่าอยู่ ตอนนั้นเราอยู่ที่นราธิวาสแล้วก็กลับไปไม่ทัน เราก็กลับไปในคืนนั้นก็เสียใจ ก็อย่างที่โพสต์ข้อความไป ("คิดถึงคุณปู่ เสียใจที่สุดที่ตั๊นไม่ได้อยู่ข้างคุณปู่ช่วงลมหายใจสุดท้ายของคุณปู่เพราะ ต้องมาทำงานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่อยากให้คุณปู่ทราบว่าตั๊นจะพยายามทำไม่ให้คุณปู่ผิดหวัง ทุกอย่างที่คุณปู่เคยสอนไว้ จะตั้งใจทำงาน ทำงานเพื่อส่วนรวม สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ครอบครัวค่ะ รักคุณปู่มากๆ ค่ะ)
จิตภัสร์-เอกนัฏ คู่จิ้นการเมือง หรือ คู่จริง?! ตั๊น พูดชัดตอนนี้ คือเป็น....?
Q : ขอถามเรื่องที่มีประเด็นเรื่อง ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อวยพรหวานวันเกิดคุณผ่านเฟซบุ๊กอยู่ เมื่อไม่นานมานี้เคยให้สัมภาษณ์กับเราว่าโสดสนิท ตอนนี้หัวใจยังว่าง ยังโสดอยู่ไหม?
(หัวเราะ) โสด 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ
Q: เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นี่รุ่นเดียวกัน?
รุ่นเดียวกันค่ะ แต่เขาเด็กกว่าเป็นเดือน
Q : เล่าถึงที่มาคำอวยพรวันเกิด หวานหยดและรูปคู่ที่ฮือฮานี่หน่อย
(หัวเราะ) ตั๊นเกิดวันที่ 16 มิถุนายน ซึ่งวันเกิดปีนี้ตั้งใจจะมาปฏิบัติธรรม มีโอกาสลงมาที่ ทีปภาวันธรรมสถาน ศูนย์ปฏิบัติธรรมที่เป็นสาขาของสวนโมกข์ ตั๊นมาอยู่ 4 วัน กินเจและนอนปฏิบัติธรรมที่นั่น ตื่นตี 4 ทำวัตรเช้า เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกดีมากๆ ก่อนหน้าชีวิตเราอาจจะวุ่นวายมาเยอะในช่วงที่ผ่านมา แต่การที่เรามาปฏิบัติธรรมทำให้ตั๊นได้เรียนรู้ มีสมาธิได้อยู่กับจิตตัวเองมากขึ้น เป็นสิ่งที่ดี ตอนนั้นเราไปคนเดียวแล้วขิงก็ตามมาสมทบ เพราะที่มีหลวงลุงกำนันอยู่ที่นั่น แล้วเขาเคยบวชมาด้วยก็เลยมาปฏิบัติธรรมด้วยกัน 2 วันสุดท้าย
Q : วันที่เขาอวยพรวันเกิดหวานหยดในเฟซบุ๊กเป็นไง อ่านแล้วเขิน หรือรู้มาก่อนโพสต์ไหม?
ตกใจ (หัวเราะ) ไม่รู้มาก่อนว่าเขาเขียน จริงๆ เขาเป็นเพื่อนที่ดีค่ะ เป็นเพื่อนที่สนิทคนหนึ่ง ก็สนิทมานานแล้ว เพราะว่าเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ แล้วก็ถือว่าเราเป็นเด็กที่เข้าการเมืองพร้อมกัน มันเลยทำให้เราสนิทกัน ให้คำปรึกษา คอยให้กำลังใจกันและกัน อย่างที่บอกการเมืองเป็นอะไรที่หนัก และพวกเราเริ่มตั้งแต่เด็ก ประสบการณ์เราจึงมีไม่น้อยกว่าคนอื่น
Q : สถานะคือเป็นเพื่อน?
เป็น เพื่อนค่ะ (หัวเราะ) เป็นเพื่อนที่ดีมาก คือเราคอยให้คำปรึกษาซึ่งกันและกัน และขิงก็เป็นกำลังใจให้ตั๊นเสมอ เขาก็ทราบว่าตั๊นผ่านอะไรมาบ้าง ขิงเขาก็จะมีภูมิต้านทานด้านการเมือง มีประสบการณ์ทางด้านนี้มากกว่าเรา ซึ่งเราเองเป็นครอบครัวนักธุรกิจ แล้วมีตั๊นคนเดียวเป็นนักการเมือง เขาก็เลยคอยเป็นกำลังใจให้ค่ะ
Q : ถามตรงๆ เขามีท่าทีมาจีบเราไหม
(หัวเราะ) ไม่ๆ คือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ เป็นกำลังใจให้กันมากกว่า
Q : แล้วอนาคตมีทางพัฒนาไปมากกว่าเพื่อนสนิทไหม
ให้ เป็นเรื่องของอนาคต คือตอนนี้เราเป็นกำลังใจให้แก่กันและกันมากกว่าค่ะ เพราะเราอยู่พรรคเดียวกัน สังกัดเดียวกัน แล้วคนที่จะเข้าใจงานการเมืองเนี่ย มันก็ไม่ได้เยอะ แต่เราจะคุยได้ คอยให้คำปรึกษาเราได้ ตั๊นก็ถือว่าโชคดีที่มีเขา
Q : รู้สึกยังไงที่คนมองว่าเป็นคู่จิ้นกัน
จริงหรือคะ (หัวเราะ) ก็มีเขินบ้าง แต่ก็ดีใจที่สร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชน
Q : ย้ำอีกที อนาคตมีโอกาสไหมที่จะเป็นมากกว่าเพื่อน ?
ให้ เป็นเรื่องของอนาคต คือตอนนี้ตั๊นตั้งใจทำงานตรงจุดนี้ให้เต็มที่ค่ะ เพราะว่างานการเมืองมันต้องใช้เวลา เราใช้กำลังใจ กำลังกาย เยอะมาก เพราะเรามีจุดมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประชาชนแล้วเราก็อยากจะทำตรงนั้นให้ เต็มที่ค่ะ
Q : เคยคิดไว้ไหมว่า จะแต่งงานตอนอายุเท่าไร ตอนนี้คุณ 30 เต็ม
เคย นึกไว้อยู่ช่วงหนึ่งค่ะ แต่ว่าตอนนี้พอสถานการณ์มันมาถึงจุดนี้แล้ว เราก็เลยเน้นไปที่หน้าที่การงานมากกว่า ไม่ได้แพลนเพราะว่ายังไม่มีใครเข้ามาจีบ ถ้าเข้ามาจีบก็ว่ากันอีกที คือเราก็ไม่ได้ปิดตัวเอง แต่บางทีการทำงานหรือสิ่งที่เราทำอยู่ บางคนอาจจะเข้ามาถึงยาก หรืออาจจะไม่เข้าใจงานของเรา เพราะว่าเวลามันไม่ค่อยมี เพราะเราทุ่มเทในเรื่องการงานมาก
Q : สเปกคนที่จะเข้ามาในชีวิต ต้องเป็นอย่างไร ขาว สูง ใส่แว่น ผมเรียบแปล้ หรืออย่างไรไหม?
(หัวเราะ) ขอให้เป็นคนดี คนที่จะเข้าใจงานของตั๊นก็พอค่ะ เพราะว่าอย่างที่บอกคือจุดมุ่งหมายของเราคืออะไร บางทีเราอาจจะไม่ได้เป็นผู้หญิงที่สามารถมีเวลาให้กับครอบครัวเท่ากับ ผู้หญิงทั่วไป คือความสำคัญที่เราให้ ไม่ใช่เราไม่ให้ แต่ต้องเข้าใจงานของเราด้วย ถ้าเข้าใจตรงนั้นได้ ถือเป็นสเต็ปแรกที่โอเค ขอเป็นคนที่จริงใจกับเราก็พอ.