ประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญล่มกลางคัน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 2


เมื่อเวลา 09.40 น. วานนี้ (21 มิ.ย.) ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยได้พิจารณาหมวด 6 รัฐสภา ส่วนที่ 1 บททั่วไป ในมาตรา 87 โดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ส.ร. ได้ขอแปรญัตติให้รัฐสภามีสภาเดียว ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร 500 คน นายเจิมศักดิ์ได้อภิปรายเท้าความ จนเลยเวลาที่ได้กำหนดเอาไว้เพียง 10 นาทีเท่านั้น ทำให้นายเดโช สวนานนท์ รองประธาน ส.ส.ร. ประธานในที่ประชุม ต้องขอให้นายเจิมศักดิ์ปิดอภิปราย จนเกิดการโต้เถียงกันอยู่นาน นายเจิมศักดิ์อ้างว่าได้มีการตกลงกันนอกรอบแล้วว่า หากมาตราใดเป็นเรื่องใหญ่จะไม่มีการกำหนดเวลา แต่นายเดโชไม่ยอมเพราะ ที่ประชุมใหญ่ได้ตกลงกันเอาไว้เพียง 10 นาทีเท่านั้น ทำให้บรรยากาศเริ่มที่จะตึงเครียด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายเจิมศักดิ์อภิปรายเสร็จ

นายเจิมศักดิ์และทีมผู้ขอแปรญัตติได้ยืนจับกลุ่มหารือกัน เนื่องจากไม่พอใจกฎเหล็กของนายเดโช ในขณะที่ที่ประชุมได้ลงมติ 44 ต่อ 7 เสียง ให้เป็นไปตามร่างของกรรมาธิการฯ จากนั้นนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ส.ร. ได้ขอให้นับองค์ประชุม ปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมเพียง 42 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ประธานจึงต้องสั่งพักการประชุมทันที

นรนิติ-เสรี-ประสงค์ เครียดสภาล่ม


หลังจากที่ประชุม ส.ส.ร.ล่ม ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างนายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธาน ส.ส.ร. นายเสรี สุวรรณภานนท์ รองประธาน ส.ส.ร. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างฯ และหัวหน้ากลุ่มผู้สงวนคำแปรญัตติ ที่บริเวณห้องอาหารของสมาชิก ส่วนภายนอกมี ส.ส.ร.ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ โดยนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เลขานุการคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ได้กล่าวขึ้นว่ามีการตกลงกันนอกรอบแล้วว่า ประเด็นนี้คงต้องให้เวลาในการพิจารณามาก เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ได้ไปกระซิบกับนายเดโชมา 2 ครั้งระหว่างการประชุมว่า ควรจะขยายเวลาให้กับสมาชิกในการอภิปรายเรื่องนี้ แต่นายเดโชก็ไม่ยอม

ขณะที่นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และนายวิทวัส บุญญสถิตย์ ส.ส.ร. ได้ร่วมกันแถลงชี้แจง

ถึงเหตุที่ ส.ส.ร.วอล์กเอาต์ และขอนับองค์ประชุมจนเป็นเหตุให้สภาล่ม โดยนายเจิมศักดิ์กล่าวว่า ได้มีการตกลงกันในการประชุมนอกรอบเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.แล้วว่า การพิจารณาหมวดรัฐสภาในภาพรวม เริ่มจากประเด็นหลักว่า ควรมีสภาเดียวหรือสองสภา จากนั้นจะพิจารณาถึงที่มาของ ส.ส.ตามด้วย ส.ว. โดยจะไม่พิจารณาไล่เป็นรายมาตรา แต่ไม่รู้ว่ามีเบื้องหลังอะไรจึงมีปัญหาขึ้นมา


เจิมศักดิ์ ขู่วอล์กเอาต์อีกหากถูกบีบ


นายเจิมศักดิ์กล่าวว่า ที่จริงประธานควรเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เสนอเหตุผล ไม่ใช่จะมารวบรัดลงมติ แม้แต่ ส.ส.ร.ที่แปรญัตติเห็นด้วยกับการมีสองสภา ก็ไม่ได้พูด จึงรู้สึกไม่เป็นธรรม ภาพที่ออกมาเหมือนผู้ทำหน้าที่ประธานทั้ง 3 คน คอยตีแส้ม้าคือให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาอย่างที่ต้องการ จึงต้องวอล์กเอาต์เพราะยอมไม่ได้ และหากยังทำอย่างนั้นอีกเราก็มีวิธีการตอบโต้ของเรา เพราะเราไม่ใช่พรรคการเมือง ไม่มีใครมาสั่งได้ อย่างไรก็ตาม อีกกว่า 200 มาตราที่เหลืออยู่ เชื่อว่าจะพิจารณาเสร็จทันเวลา

จนกระทั่งเวลา 13.30 น. นายเสรีได้สับเปลี่ยนมาทำหน้าที่ประธาน

โดยได้สั่งให้สมาชิกกดปุ่มแสดงตนเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม เมื่อองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งจึงได้ดำเนินการประชุมต่อไป ทั้งนี้ นายเจิมศักดิ์และนายสุรชัยมีท่าทีอ่อนลง ได้ขอให้พิจารณากรอบของประเด็นการอภิปราย มากกว่าการต้องวางกฎเหล็กให้สามารถอภิปรายกันเพียง 10 นาทีเท่านั้น ได้มีสมาชิกอภิปรายเห็นด้วยหลายคน โดยนายเสรีได้บอกเพียงว่าให้พิจารณาตามประเด็นหลัก แต่ไม่ได้ระบุว่าจะต้องให้อยู่ในกรอบเวลา 10 นาทีต่อไปหรือไม่


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์