ส่อง19ตัวเอ้รมต.-คนเสื้อแดง ป.ป.ช.หมายหัวฟันคดีร้ายแรง

 ส่อง19ตัวเอ้รมต.-คนเสื้อแดง ป.ป.ช.หมายหัวฟันคดีร้ายแรง

 15 มิ.ย.58 จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตั้งองค์คณะไต่สวน

ที่มีกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะ ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับพวก ได้ร่วมกันจัดเวทีปราศรัย ลักษณะยุแยงให้ใช้ความรุนแรง จัดตั้งกองกำลัง ข่มขู่องค์กรอิสระ แบ่งแยกราชอาณาจักรไทยเป็นสองส่วน

นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา ที่ไม่ยับยั้งการกระทำดังกล่าว และไม่ดำเนินการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใด ๆ นั้น

ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ล่าสุดป.ป.ช. ทำหนังสือแจ้งคำสั่งตั้งองค์คณะไต่สวนให้กับผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดแล้ว ซึ่ง 2ราย ที่ไม่รับหนังสือดังกล่าว คือ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ไม่มาขอรับภายในกำหนด ส่วน นายชาญ ไชยะ (หนุ่ม โคราช) แกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่เคยพามวลชนเข้าปิดล้อมสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้ยุติการไต่สวน กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับศาลนนทบุรี กรณีทำลายทรัพย์สินสำนักงาน ป.ป.ช. ไม่มีชื่อตามจ่าหน้า

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รวบรวมรายชื่อ อดีตรัฐมนตรี และบรรดาแกนนำ นปช. ที่ถูก ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาร้ายแรง จำนวน 19 คน ซึ่งรวมทั้ง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) (ในขณะนั้น) ด้วย


รายชื่อผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 19 ราย ได้แก่

1.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ขณะนั้น)
2.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ (ขณะนั้น) และแกนนำ นปช.
3.นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช.
4.นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช.
5.นายอนุวัฒน์ ทินราช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา
6.ร้อยตรีประไพ ฮวดศรี
7.นางสำเนียง คงพลปาน
8.นางอัญชลี เทพวงษา
9นางอุบลกาญจน์ อมรสิน
10.นายนันท์พิพัชร์ หรืออเนก วงศ์มีมา
11.น.ส.ศิริลักษณ์ แสงแก้ว
12.นายทองอยู่ พรมนำชา
13.นายรัตน์ ภู่กลาง
14.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม (ขณะนั้น)
15.นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง
16.นายมาลัยรักษ์ ทองชัย หรือศรรักษ์ มาลัยทอง
17.นายผัน โพธิ์ทองแดง (แดง สามวา)
18.นายชาญ ไชยยะ (หนุ่ม โคราช) แกนนำ กวป.
19.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ขณะนั้น)

เรื่องที่ถูกกล่าวหา

หนึ่ง เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2557 เวลากลางวันกลางคืนต่อเนื่องกัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และที่ 2 ได้ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 3-13 ซึ่งเป็นแกนนำ นปช. จัดเวทีปราศรัยที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยใช้ชื่อว่า “นปช. ลั่นกลองรบ”

ในลักษณะยุยงให้ใช้ความรุนแรง ให้จัดตั้งกองกำลังของกลุ่ม นปช. ข่มขู่องค์กรอิสระและศาล ยุยงให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 ให้มีการแบ่งแยกราชอาณาจักรไทยออกเป็นสองส่วน


ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาที่ 15-18 ซึ่งเป็น ซึ่งเป็นมวลชนกลุ่ม กวป. ได้กล่าวปราศรัยที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว กทม. ชวนกลุ่มมวลชนมาชุมนุมและปิดล้อมสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ข้าราชการ และลูกจ้างสำนักงาน ป.ป.ช. ปฏิบัติงานได้ ตามที่แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 ยังดำรงตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรี เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ประชาชน และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

สอง กรณีผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 (น.ส.ยิ่งลักษณ์) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 ไม่ดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 และในฐานะรักษาการ รมว.กลาโหม มีอำนาจหน้าที่ในการบังคับบัญชาและกำหนดนโยบายของกระทรวงกลาโหมในการป้องกันและรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ

กลับไม่ดำเนินการใด ๆ และไม่แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-3 รวมทั้งนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ และนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ กับพวก

สาม กรณีผู้ถูกกล่าวหาที่ 19 (นายธาริต) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนว่า นปชใ จัดเวทีปราศรัยที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ ในลักษณะดังกล่าวแล้ว กลับไม่ดำเนินคดี ไม่แจ้งความ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ดังนั้น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ประชาชน และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ประชาชน หรือกระทรวงกลาโหม

ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3-13 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 15-18 เป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุนผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 ให้กระทำความผิด ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 19 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใดผู้หนึ่ง

ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติให้รับเรื่องกล่าวหาดังกล่าวไว้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ตามหมวด 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะเป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. และนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง

ทั้งหมดคือรายชื่อ-ข้อกล่าวหา ในกรณีนี้ ที่ผูกมัดบรรดา “อดีตบิ๊กรัฐมนตรี-แกนนำ นปช.” ต้องเดินเข้าสู่การไต่สวนของ ป.ป.ช. อีกครั้ง

ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไร ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ !

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์