‘สุดยอดเลยลุงตู่ พลิกสถานการณ์ร้อน ที่อันธพาลโลก ทั้งไอ้กัน และติ่ง UNHCR ฮั้วกัน กะเหยียบรัฐบาลให้จมดิน เล่นงานไทยหนัก เรื่องค้ามนุษย์ และละเมิดมนุษยธรรม บีบให้ไทยเปิดค่ายผู้อพยพ และเปิดสนามบินให้แยงกี้เข้ามาใช้ ทั้งๆที่ไทย ไม่ใช่ต้นเหตุ และปลายเหตุ แผนการรับมือ ไม่ได้ยอมอ่อนข้อ กำหนดท่าทีชัดเจน รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม "การช่วยเหลือการโยกย้ายถิ่นฐาน แบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย" แต่ไม่ยอมตั้งค่ายพักผู้อพยพทุกชนิด และไม่รับขึ้นฝั่ง ทั้งไม่ยอมให้ไอ้กัน ใช้สนามบินที่ภูเก็ต และอู่ตะเภา อย่างเป็นอิสระ หากสหรัฐฯ จะใช้ ช่วยชาวโรฮีนจา ต้องผ่านศูนย์ ศอ.ยฐ. ที่กองทัพไทยดูแลอยู่ ทั้งทางอากาศและทางทะเล ไม่ใช่จะเข้ามาใช้อะไร ก็ได้ในพื้นที่ประเทศไทย แลัิยู่ได้แต่วันที่ 11 มิ.ย.58 เท่านั้น ... . คงรู้ฤทธิ์แล้วว่า ไทยไม่ใช่หมู ที่จะมาชี้นิ้วสั่ง หรือใช้แผนบีบไทยได้ง่าย
ทำเอาไอ้กัน ต้องยอมเปลี่ยนแผน จากไม้แข็ง เป็นไม้นวม หันมาอวยรัฐบาลไทย ไม่ใช่เวทีธรรมดา ในเวทีที่ รมว.กลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.เหล่าทัพ ประเทศต่าง ๆ กว่า 30 ประเทศ เข้าร่วม นายแอสตัน คาร์เตอร์ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ชมไทย ในที่ประชุมด้านความมั่นคงทางทหารในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก ชื่นชมบทบาทประเทศไทย ถึงความร่วมมือช่วยเหลือ ด้านมนุษยธรรม และการบรรเทาภัยภิบัติ ในประเทศเนปาล เรื่องความร่วมมือ สนับสนุนการฝึกคอบร้าโกลด์ อีกทั้งเรื่องความตั้งใจในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และความริเริ่มมีบทบาทนำ ในการจัดประชุมการช่วยเหลือการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งการประชุมในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ร่วมกันที่ทุกประเทศสร้างความเข้าใจและขยายความร่วมมือแก้ปัญหาของภูมิภาคและร่วมสร้างสันติสุขที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ขณะที่นาย เดวิด เชียร์ ผู้ช่วยรมว.กห.สหรัฐฯได้ขอบคุณประเทศไทย ที่จัดตั้ง ศอ.ยฐ. แสดงถึงมิตรภาพความสัมพันธ์และความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ เพื่อความสงบสุขของภูมิภาค"'
ซึ่งข้อเขียนดังกล่าวก็มีผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค ชื่นชม และ แชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก