จวก สนธิ วางท่อ

"ปองพล" เดือด! ออกโรงจวก "สนธิ" ทำลาย ทรท.


วางท่ออดีต 3พรรคฝ่ายค้านตั้งรัฐบาล ประชดให้บรรจุลง รธน.-พร้อมเป็นฝ่ายค้าน เตือนการเมืองกับการทหารคิดไม่เหมือนกัน แนะนายกฯ เปิดบ้านพิษณุโลกเป็นเวทีกลาง-ถ่ายทอดสด เชิญ"สพรั่ง" ร่วมด้วย

เมื่อเวลา 10.00 น.

ที่สำนักงานกลุ่มไทยรักไทย นายปองพล อดิเรกสาร แกนนำกลุ่มไทยรักไทย แถลงถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. เปิดเผยแผนปฏิบัติการ 3 ขั้นหลังการรัฐประหาร ว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พล.อ.สนธิ มีแผนการทำลายพรรคไทยรักไทยอยู่ในใจตั้งแต่แรก เพื่อให้อดีต 3 พรรคร่วมฝ่ายค้านเข้ามาเป็นรัฐบาล ดังนั้นน่าจะบรรจุลงในบทเฉพาะการของร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ไปเลยว่าให้ให้อดีต 3 พรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นรัฐบาลกี่ปี ส่วนกลุ่มไทยรักไทยพร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน

แต่ตนอยากเตือน พล.อ.สนธิ ด้วยความหวังดีว่า


การเมืองและการทหารต่างก็มีธรรมชาติของตัวเอง แผน 3 ขั้นแรกสำเร็จด้วยการทหาร แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งจะเป็นเรื่องการเมืองล้วน ๆ และธรรมชาติของการเมืองไม่ใช่ 1 บวก 1 เท่ากับ 2 เสมอไป การออกมาระบุว่า 3 พรรคใหญ่จะเป็นตัวแทนในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไปนั้นเป็นการพูดที่ลืมประชาชนที่จะเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และยังเหลือเวลาระยะเวลาอีกนานอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม

แนวทางของพรรคต่อจากนี้จะต่อสู้ในระบอบประชาธิปไตยไปสู่การเลือกตั้งแม้จะถูกกีดกัน ก็ยังมั่นใจว่าการเมืองมีธรรมชาติของการเมืองและนักการเมืองก็มีใจและสมองเป็นเครื่องมือในการต่อสู้

นายปองพล กล่าวต่อว่า


ก่อนที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง ตนเสนอให้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดให้มีการพูดคุยกับฝ่ายต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและสังคม โดยใช้รายการเปิดบ้านพิษณุโลกเป็นเวทีกลางและออกอากาศให้ประชาชนรับชม โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองจะต้องเข้ามาเป็นผู้บริหารงานต่อจากรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จึงควรมีการหารือกันก่อน ซึ่งตนพร้อมที่จะเป็นตัวแทนฝ่ายการเมืองในการพูดคุยครั้งนี้

และอยากให้เชิญ พล.อ.สนธิ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร

ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช.มาร่วมพูดคุยด้วย สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทยของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลุ่มไทยรักไทยยังไม่ได้หารือกัน แต่เชื่อว่าเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับจะต้องมีประชาชนที่ยังรักในตัวพ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำนวนมากนั้นจะเดินทางไปต้อนรับ และคงห้ามไม่ได้เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์