บิ๊กป้อม ป้อง พล.ท.มนัส บอกเป็นคนทำงานดี ปัดกองทัพเอี่ยว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร ถึงกรณีที่พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกจะเข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตามข้อกล่าวหาค้ามนุษย์ในวันเดียวกันนี้จะส่งผลให้เสียภาพลักษณ์กองทัพหรือไม่ ว่า

ตอนนี้ถือยังว่าพล.ท.มนัส ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาอยู่ หากมีหลักฐานเพียงพอก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าดำเนินการ

ส่วนโทษทางวินัยทหารขึ้นอยู่ที่ผู้บังคับหน่วยเป็นคนตั้งกรรมการสอบสวน อย่างไรก็ตาม การที่ศาลออกหมายจับเขาก็น่าจะมีหลักฐานเพียงพอแล้ว ซึ่งสืบเนื่องเชื่อมโยงกับคนที่โดนจับได้ก่อนหน้านั้น และตนก็คิดว่าน่าจะจริงตามหลักฐาน ทั้งนี้ ตนมองว่าถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับกองทัพ และเป็นเรื่องที่เคยดำเนินการมานานแล้ว แต่ตนไม่ทราบว่าเขาทำกันมานานแค่ไหน เพราะเมื่อตอนที่พล.ท.มนัสยังเป็นพ.อ.อยู่เขาก็ปฏิบัติหน้าที่ที่กอ.รมน.ภาค4 จึงมีความรับผิดชอบในพื้นที่ภาคใต้จึงมีความใกล้ชิดกับการค้ามนุษย์

เมื่อถามว่าจะมีการขยายผลไปถึงกำลังพลส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องหรือไม่ พบ.อ.ประวิตร กล่าวว่า

เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวินัยดังนั้นพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงกลาโหมต้องเป็นคนตั้งกรรมการสอบสวนเอง ส่วนเรื่องคดีความต้องเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะสืบสวนต่อไป จึงไม่เกี่ยวกับทางทหารที่ต้องไปสอบสวนแต่จะดำเนินการทางวินัยอย่างเดียว

เมื่อถามว่าในขณะที่อยู่กองทัพภาคที่ 4 มานานไม่มีการระแคะระคายบ้างหรือ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่มี เท่าที่ทราบเขาเป็นทำงานดีมีความตั้งใจทำงาน และถือว่าเขาทำงานให้ประเทศมาเยอะ"

"เรื่องโรฮีนจาต้องดูที่สาเหตุต้นทางของปัญหาว่าเขาออกมาเพราะอะไร อยู่ในประเทศต้นทางไม่ได้เพราะอะไร การแก้ปัญหาควรแก้จากต้นตอของปัญหา ส่วนประเทศใหญ่ๆ ก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพราะถือเป็นปัญหาค้ามนุษย์ ส่วนการประชุมค้ามนุษย์ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นเจ้าของเรื่องซึ่งผมจะดูความคืบหน้าว่าทางพม.จะเสนออะไรขึ้นมาบ้าง" พล.อ.ประวิตร กล่าว

เมื่อถามว่าการแก้ปัญหาอย่างจริงจังของรัฐบาล จะทำให้เราหลุดจากการจัดลำดับจากรายงานสถานการณ์การค้ามนุย์ของสหรัฐฯ (เทียร์ 3) หรือไม่

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราตัดสินใจปลดล็อกเองไม่ได้ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งที่ตนไปประชุมที่ประเทศสิงคโปร์ทุกประเทศพอใจที่ไทยทำงานแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจังและได้ผลดี ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ก็ชมเชยไทยโดยตรงกับตนว่าเรามีความจริงจังในการแก้ไขปัญหา ดังนั้นโอกาสที่จะปลดไทยออกจากเทียร์ 3 คงพอมีโอกาส เพราะคงไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว