ปัดดึงเกมถอดยศแม้ว ผบ.ตร.โวย ยันยึดกม.อย่ามากดดัน

ปัดดึงเกมถอดยศแม้ว ผบ.ตร.โวย ยันยึดกม.อย่ามากดดัน

วันที่ 1 มิถุนายน พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต รมว.ต่างประเทศ ตั้งข้อสงสัยถึงการยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยยังคงเหลือหนังสือเดินทางทูตอีก 1 เล่มที่ยังไม่ได้ยกเลิกว่า  กระทรวงการต่างประเทศ ได้ยืนยันข้อมูลว่า ก่อนยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ถือหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีน้ำตาลเพียง 2 เล่มเท่านั้นคือ หนังสือเดินทางหมายเลข U957441 และหมายเลข Z530117 ตามที่ประกาศไปแล้ว ส่วนหนังสือเดินทางทูตที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยถือครอง คือ หมายเลข D215863 ได้ถูกยกเลิกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่แถลงการณ์ยืนยันและชี้แจงกรณียกเลิกพาสปอร์ตพ.ต.ท.ทักษิณว่า ได้ยกเลิกหนังสือเดินทางทูตฉบับล่าสุด หมายเลข D215863 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551

สำหรับกรณี นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ขอคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพร้อมกับการถอดยศนั้น  พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่มีการหารือหรือพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว แต่ไม่ว่าใครจะมีข้อคิดเห็นอย่างไร ในส่วนของรัฐบาลก็จะดำเนินการโดยยึดกฎหมายอย่างเสมอภาคกัน  ส่วนที่มีบุคคลออกมาเตือนรัฐบาลให้ระวังคลื่นใต้น้ำเพราะเรื่องดังกล่าว ต้องชี้แจงว่ารัฐบาลพยายามเร่งปฏิรูปประเทศเพื่อไม่ให้บ้านเมืองขัดแย้งขึ้นอีก ทุกอย่างจะดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งการละเว้นหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จะไม่ทำให้เกิดความปรองดอง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สลค. ไม่สามารถตั้งเรื่องถอนคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้เอง เพราะ สลค. มีหน้าที่ทูลเกล้าฯ ดังนั้น ต้องมีหน่วยงานอื่นส่งเรื่องเข้ามาเพื่อให้พิจารณา ส่วนจะเป็นหน่วยงานไหนนั้นไม่สามารถระบุได้ เพราะไม่รู้ว่าต้นเรื่องคือหน่วยงานไหน และหากมีการส่งมาแล้ว สลค. ต้องพิจารณาความถูกต้องว่าจะเสนอทูลเกล้าฯหรือไม่อีกครั้ง

ขณะที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลสถานการณ์ในประเทศหลังกระทรวงต่างประเทศเพิกถอนพาสปอร์ตและเสนอถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปยังปกติเรียบร้อยดี ไม่มีกลุ่มต่างๆออกมาเคลื่อนไหวเป็นพิเศษหรือผิดปกติ

วันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของตนในการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังส่งเรื่องคืนให้คณะกรรมการพิจารณาถอดยศ ที่มี พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ10) เป็นประธาน เพื่อให้คณะกรรมการลงนามรับรองมติก่อนเสนอกลับมาให้พิจารณาอีกครั้งว่า อย่าด่วนสรุป จะทำแบบนั้นไม่ทำแบบนี้   ตีกรรเชียงถอยหลังซื้อเวลารอวันเกษียณ โดยออกมาแสดงความคิดเชิงปรามาส ชี้แนะชี้นำและกดดัน ทั้งนี้ เชื่อว่าบางคนทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่บางคนมีวาระซ่อนเร้น หวังผล

พล.ต.อ.สมยศ ยืนยันว่า ตนทำงานมีหลักการ  ยึดหลักความถูกต้อง เที่ยงธรรมและกฎหมาย พร้อมรับฟังและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น ตนมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชา พร้อมปฎิบัติและสนองนโยบายอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่ทั้ง 2 ไม่เคยแทรกแซงหรือสั่งให้ตนทำสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นคนอื่นที่รู้ตัวว่าไม่ใช่โปรดเคารพสิทธิ์ด้วย

ด้าน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ กรณีออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ขัดระเบียบข้อบังคับของกระทรวงต่างประเทศว่า  เรื่องนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ได้นำมาทำตอนที่มีกระแส  ที่ผ่านมาองค์คณะไต่สวนก็รายงานความคืบหน้าให้กรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่รับทราบมาครั้งหนึ่ง แต่ให้ไปหาพยานหลักฐานเพิ่ม คาดว่าองค์คณะไต่สวนจะสรุปเรื่องให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาว่ามีมูลเพียงพอจะแจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ในเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งนี้ ในการพิจารณาของป.ป.ช.จะดูทั้งหมดว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง รวมถึงดูพฤติการณ์ด้วย

ขณะที่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่หนักใจที่ป.ป.ช.จะสรุปคดีคืนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะตนไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการใดๆ เพียงสอบถามเจ้าหน้าที่กระทรวงว่าจะพิจารณาคืนได้หรือไม่ แต่ไม่ได้สั่งการให้คืน ทั้งนี้อยากตั้งข้อสังเกตที่กรณีนี้กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีการยึดคืนพาสปอร์ต ไม่ทราบว่าเหตุใดป.ป.ช.จึงต้องจ้องมาเล่นงานแต่พวกตน ส่วนกรณีน.ต.ประสงค์ระบุพ.ต.ท.ทักษิณยังถือหนังสือเดินทางทูตเล่นสีแดงนั้น ตนไม่ทราบ เท่าที่ทราบมีการคืนพาสปอร์ตบุคคลทั่วไปให้พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น แต่หลักการจะออกหรือยกเลิกพาสปอร์ตเป็นหน้าที่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศรับผิดชอบ มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษารายละเอียดและระเบียบว่าด้วยการออกหนังสือเดินทางของกระทรวงต่างประเทศ ว่าทำได้และขัดข้อกฎหมายหรือไม่

มีความเห็นจาก พระสุเทพ ปภากโร กรณีถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า สมัยที่อาตมาเป็นรองนายกฯในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรื่องถอดยศ มีกฎหมายและขั้นตอนวิธีการที่ต้องทำ อาตมาให้ข้าราชการทำตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ แต่เขาจะทำไปถึงไหนอย่างไร อาตมาไม่ได้ไปเร่งรัด  ถ้าไปเร่งจะกลายเป็นไปไล่ล่า แต่ขณะนี้เวลาสถานการณ์เปลี่ยน เมื่อมีเหตุปัจจัยก็มีผล อย่างไรก็ตาม การยึดคืนพาสปอร์ตกับการถอดยศ เป็นคนละส่วนกัน กฎหมายมีอยู่ว่าจะไม่ออกพาสปอร์ตให้คนทำผิดหนีคดี แต่รัฐบาลก่อนเขาช่วยเหลือกันเขาก็ไม่ทำ แต่รัฐบาลนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมายเขาก็ต้องทำ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์