วันที่ 28 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ10) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการถอดยศตำรวจ กล่าวถึงการดำเนินการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดิน ถ.รัชดาภิเษก ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 2 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีคดี ว่า กรณีนี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้หนังสือลับ ด่วนที่สุด ที่ผผ.20/351 ลงวันที่ 7 ส.ค. 2557 แจ้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำข้อเท็จจริงในประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ที่มิได้อยู่ในราชการ หรือ หน่วยงานของรัฐ และตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา แล้วหลบหนีไป ตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรวม 5 คดี และกองทะเบียนประวัติอาชญากร ได้ออกประกาศสืบจับผู้กระทำความผิด ฉบับที่ 489 /2551 ซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์ตามข้อ 1 (6) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 มาประกอบการพิจารณาดำเนินการถอดยศตำรวจ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547 และ แนวทางปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นบรรทัดฐานเดียวกันต่อไป
พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการถอดยศตำรวจ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 256/2558 ลงวันที่ 1 พ.ค.2558 โดยมีตนเองเป็นประธาน มี พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้ช่วยผบ.ตร. เป็นรองประธาน มีผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ผบช.สง.ก.ตร.) ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ( ผบช.กมค.) หรือ ผู้แทน ผบก.กองวินัย เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยคณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่พิจารณาให้เป็นไปตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ.2547
พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการถอดยศตำรวจ ตามระเบียบ ตร.ว่าด้วยถอดยศ มีด้วยกัน 7 ข้อ แต่คณะกรรมการชุดนี้พิจารณาเฉพาะในข้อ 1 (6) ที่ระบุว่า ต้องหาในคดีอาญาแล้วหลบหนีไป สำหรับผู้ที่มิได้อยู่ในราชการหรือหน่วยงานของรัฐ เท่านั้น โดยที่ประชุมได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่า
"มีเอกสารยืนยันเป็นที่ประจักษ์จากหน่วยงานราชการหลายหน่วยงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีอาญา จึงเข้าข่ายเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดในการถอดยศ ตามระเบียบ ตร.ว่าด้วยการถอดยศ เตรียมนำเสนอ ผบ.ตร.พิจารณาได้ ภายใน 1-2 วันนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างทบทวนในรายละเอียด รวมทั้งการรวบรวมเอกสารต่างๆ ที่จะนำมาประกอบในการพิจารณาให้ครบถ้วนสมบูรณ์กว่านี้ การพิจารณาเรื่องนี้เป็นการทำงานในรูปคณะกรรมการ เป็นการทำงานทั้งระบบใหญ่ มีทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง มาร่วมพิจารณา ขณะเดียวกันที่ประชุมได้มีการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน อย่างรอบคอบ มีการอภิปรายในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เพราะเราเข้าใจว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เราดำเนินการตามขั้นตอน ตามระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง"ที่ปรึกษา (สบ10) กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการได้มีการนำหนังสือตอบกลับจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ให้ความเห็น ว่าควรให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ มาพิจารณาด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวว่า ได้มีการนำหนังสือของคณะกรรมการกฤษฎีกามาพิจารณาด้วย เราดูทุกมิติ
"เพราะการพิจารณาครั้งนี้ค่อนข้างละเอียด เนื่องจากถูกท้วงติงมาจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า การพิจารณาของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมา ยังมีบางประเด็นที่ตกหล่น ไม่ครบถ้วน" พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าว
สำหรับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเข้าเงื่อนไขในการถอดยศข้ออื่น ซึ่งได้มีการพิจารณาไปส่วนหนึ่งแล้วในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ซึ่งตนไม่ขอพูดถึง แต่ครั้งนี้เราพิจารณาจากคำท้วงติงของหน่วยงานของรัฐอีกหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบ ทั้งนี้ มีการส่งหนังสือท้วงติงมาตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2557 เราก็ทำมาโดยตลอดไม่ได้เพิ่งมาทำ จึงมีการพิจารณาอย่างครบถ้วนทุกด้าน
เมื่อถามว่าคณะกรรมการชุดนี้ได้สรุปความเห็นว่าควรถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวว่า ผลสรุปของคณะกรรมการรอให้ ผบ.ตร. เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ ตนบอกได้เพียงว่าคณะกรรมการได้สรุปความเห็นไปแล้ว ยืนยันว่าการพิจารณาครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่างแล้ว มีทุกมิติ สามารถตอบคำถามได้ทั้งหมด