26 พ.ค.58 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ คสช.และครม.เสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญกว่า 100 ประเด็น และกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการเมือง กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ อีกกว่า 100 ประเด็นว่า เป็นการแก้ไขไม่ใช่ปรับปรุงส่งผลให้ข้อเสนอแนะของฝ่ายการเมืองมีน้ำหนักมากขึ้น ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญควรเปิดใจรับฟังให้มาก
“เท่าที่ติดตามความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ส่วนมากจะตกผลึกทางความคิดว่า การเมืองต้องมีเสถียรภาพ เป็นประชาธิปไตย และยึดโยงประชาชน เศรษฐกิจปากท้อง ประชาชนถึงจะเดินหน้าไปได้ ทั้งนี้ แม้จะมีความคิดสุดโต่งจากฆราวาสบางท่านก็ดี พระบางรูปก็ดี ที่เสนอให้รัฐบาลอยู่ยาวไปอีก 2 ปี น่าจะเป็นความหวังดีส่วนตัว แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมแน่ ผมเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้คิดอยู่ยาว เพราะมีสัญญาประชาคมทั้งต่อชาวไทยและชาวโลกค้ำคออยู่ ที่สำคัญที่สุด คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน เป็นปัญหาหิน ที่หนักที่สุดที่รัฐบาลที่มาจากรัฏฐาธิปัตย์แก้ไขยาก”
นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า เมื่อปัญหาเศรษฐกิจมีทีท่าว่าจะแก้ยาก ปัจจุบันจึงเริ่มมีเสียงสะท้อนจากภาคธุรกิจเอกชนเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตฯ นายธนาคาร นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ สื่อมวลชนคอลัมน์เศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งสภาพัฒน์ฯ แจงตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง ที่ผ่านมาเคยให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของ ครม.เศรษฐกิจชุดนี้ว่า ไม่ใช่ไม่มีฝีมือ ต่อให้เอาเทวดามาแก้ก็ไปไม่ได้ เพราะระบบการเมืองของรัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ที่อ้างว่าเข้ามาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเฉพาะหน้า ทำให้การได้รับการยอมรับแตกต่างจากรัฐบาลปกติสากล
“ถ้าไม่หลอกตัวเอง ก็ต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะรัฐบาลจะเป็นแกนสำคัญที่จะทำให้กติกาการเมืองมีเสถียรภาพเป็นประชาธิปไตยที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่และเดินไปตามโรดแมพที่ประกาศต่อสาธารณชนและชาวโลกไว้”
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
