สิงห์ดำ ชี้ แม้ว กลัวเช็กบิล-ธุรกิจชินล้ม ไม่มีทางเว้นวรรค

สิงห์ดำ ชี้ แม้ว กลัวเช็กบิล-ธุรกิจชินล้ม ไม่มีทางเว้นวรรค

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2549 15:28 น.

รัฐศาสตร์จุฬาฯ จับสัญญาณตั้งม็อบตามหัวเมืองปลุกกระแสต้านพันธมิตรฯ หนุนนั่งเก้าอี้นายกฯ ต่อ ระบุไม่เชื่อคำพูด ทักษิณ คิดเว้นวรรค เหตุธุรกิจชินฯ ต้องใช้ฐานการเมืองหนุนและกลัวโดนเช็กบิลในภายหลัง


วันนี้ (4 เม.ย.) รศ.พิทยา บวรวัฒนา อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ออกรายการกรองสถานการณ์ ช่อง 11 เปิดทางเว้นวรรคทางการเมืองว่า ไม่คิดว่าคุณทักษิณจะเว้นวรรค ข้อเสนอเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นเพียงต้องการให้กลุ่มพันธมิตรฯ หยุดการประท้วง หากคุณทักษิณเว้นวรรคจะทำให้สถานการณ์ของคุณทักษิณลำบาก เพราะข้อข้องใจต่างๆ ยังไม่ได้ชี้แจงต่อสังคม

รศ.พิทยา กล่าวว่า สำหรับสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าคุณทักษิณยังไม่คิดเว้นวรรค คือ การจัดตั้งม็อบสนับสนุนตามหัวเมืองต่างๆ เพื่อให้ดำรงตำแหน่งต่อไป ซึ่งม็อบเหล่านี้จะปลุกขึ้นมาเพื่อเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรฯ หยุดการเคลื่อนไหว และให้คุณทักษิณนั่งในตำแหน่งนายกฯ ต่อไป

หลังจากนี้เขาจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป และจะเลือกออกทีวีเพื่อชี้แจงเรื่อยๆ เพื่อแย่งชิงมวลชน ตอนนี้อาจจะไม่ใช้วินมอเตอร์ไซค์อย่างกรณีบุกสำนักงานผู้จัดการแล้ว แต่จะปลุกตามหัวเมืองต่างจังหวัดชนกับกลุ่มพันธมิตรในเมือง และจะดึงแนวร่วมกลุ่มทหารเข้ามาเอี่ยวด้วย รศ.พิทยากล่าว

ดร.พิทยา กล่าวด้วยว่า คุณทักษิณเว้นวรรคไม่ได้ เพราะเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก และเขาเองก็ไม่ไว้ใจว่าคนที่มาแทนจะคุ้มครองตัวเขาและธุรกิจของเขาได้ เพราะการทำธุรกิจของคุณทักษิณต้องใช้ฐานการเมืองรองรับ อีกทั้งข้อข้องใจในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้รับการชี้แจง

ส.ว.อัด แม้ว ใช้สื่อโกหก ปชช.- ชี้ตั้ง กก.สมานฉันท์ กลบเรื่องชอบธรรม

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2549 16:34 น.

ส.ว.รุมด่า แม้ว ออกทีวี โกหก-บิดเบือน คิดว่าแค่เลือกตั้งก็เป็นประชาธิปไตยแล้ว ชี้ ผล No Vote สะท้อนภาพรวมรัฐแพ้การเลือกตั้ง ถึงเวลาต้องรู้ร้อนรู้หนาว ไม่เช่นนั้นจะปกครองประเทศไม่ได้ ระบุ แนวคิดตั้งกรรมการไกล่เกลี่ยเพื่อเบี่ยงประเด็นเรื่องความชอบธรรม ย้อน มีกฎหมายข้อไหนที่ห้าม ส.ส.- ส.ว.ไปด่ารัฐบาลนอกสภา สอน ต้องเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศไม่ใช่แค่ 16 ล้านคน

วันนี้ (4 เม.ย.) นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการ ส.ว.กทม.กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดใจผ่านรายการกรองสถานการณ์ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ว่า ในเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอจะจัดตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อมาไกล่เกลี่ยเพื่อสมานฉันท์นั้น ถือว่าเป็นการเบี่ยงประเด็น ซึ่งประเด็นตอนนี้ คือ การที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ขาดความชอบธรรมตรงนี้ต่างหากที่คือปัญหา ดังนั้น คณะกรรมการที่จะมีการจัดตั้งขึ้นมาคงไม่สามารถที่จะมาแก้ปัญหาตรงนี้ได้ และในเมื่อกรรมการไม่สามารถที่จะมาแก้ตรงนี้ได้แล้วอยากจะรู้จะมาแก้ปัญหาตรงไหน และใครจะเป็นคนตั้งและใช้อำนาจอะไรที่ตั้งกรรมการขึ้นมา

ตอนนี้เหมือนกับคนที่ขโมยควายสองตัว และถูกประชาชนจับได้ ซึ่งตอนนี้กำลังเถียงกันอยู่และทางขโมยก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองขโมยมา ดังนั้น จึงตั้งคนกลางมาเพื่อไกล่เกลี่ยเพื่อแบ่งควายกันคนละตัวอย่างนั้นใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นกรรมการจะตั้งมาเพื่อปรองดอง คงทำไม่ได้เนื่องจากปัญหาอยู่ที่เรื่องจริยธรรม แต่ถ้าจะตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อให้คำปรึกษาเหมือนกับที่เคยตั้งเชิญคุณอานันท์ (ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ หรือ กอส.) เป็นประธาน กอส.ทำไม่มีอำนาจอะไร

ส.ว.กทม.กล่าวต่อว่า อยากตั้งคำถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีสิทธิอะไรที่จะมากำหนดว่าจะให้นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา หรือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ มาเป็นนายกฯแทนตัวเอง เพราะอย่าลืมว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯต้องมาจากการเลือกของ ส.ส.ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโดยอัตโนมัติทันที

ไม่รู้ว่าเขาพูดได้อย่างไร เพราะนี่คือระบบประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบบการสืบทอดอำนาจแบบเผเด็จการ เขามีอำนาจอะไรที่พูดเช่นนี้อย่าลืมว่าตำแหน่งใครคิดจะให้ใครก็ได้ ดังนั้น จึงถือเป็นการพูดแบบเหลิงอำนาจและย่ามใจ แต่ในทางกลับกันเขาเองเลือกที่ปฏิเสธจะแก้ปัญหาโดยใช้มาตรา 7 ในรัฐธรรมนูญ เพราะบอกว่าไม่ได้เป็นไปตามระบบประชาธิปไตย ซึ่งเขาคิดแต่ว่าการเลือกตั้ง คือ ประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว ประชาธิปไตย คือ การต้องไปเลือกตั้งจริง แต่ประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกตั้งอย่างเดียวแต่จะต้องเป็นประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วม นายเจิมศักดิ์ กล่าว

สำหรับกรณีที่ผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยหลายคนมีคะแนนน้อยกว่าเสียงของการไม่ประสงค์ลงคะแนนนายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า ลองเอามาเทียบกับที่กฎหมายกำหนดว่าในกรณีที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียวจะต้องได้คะแนนร้อยละ 20 ถึงจะได้เป็น ส.ส.แต่ลองคิดในทางกลับกันว่าถ้า ส.ส.คนนั้นได้คะแนนโนโหวตมากกว่าร้อยละ 20 ก็ถือว่าไม่เหมาะสม ฉะนั้น เมื่อมองในภาพรวมของรัฐบาลที่มี ส.ส.ที่แพ้คะแนนโนโหวตแบบนี้ ถือว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมแล้ว จึงขอร้องว่าอย่าดื้อด้านถึงเวลาแล้วที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะต้องรู้ร้อนรู้หนาว เพราะถึงแม้จะได้เป็นรัฐบาลแต่ก็ปกครองคนไม่ได้

ส่วนเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุถึงการยุบสภา ว่า ถึงแม้จะไม่มีความขัดแย้งในสภาแต่มีสมาชิกรัฐสภาไปร่วมกับชุมนุม นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า ในกฎหมายไม่ได้ห้ามให้ ส.ส.และ ส.ว.ไปพูดนอกสภา และที่ผ่านตนเองก็ไปพูดนอกสภาที่มีการวิจารณ์รัฐบาลอยู่หลายเวทีตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แล้วทำไมถึงเพิ่งจะมายุบสภา และถ้าคิดแบบนี้แสดงว่าถ้ามีสมาชิกรัฐสภาคนใดไปพูดนอกสภาก็ต้องยุบสภาทุกครั้งใช่หรือไม่

ส่วน น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ รักษาการ ส.ว.อุบลราชธานี กล่าวว่า ถือเป็นการโกหกประชาชน เพราะปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ คือ การขายหุ้นของครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สังคมกำลังตรวจสอบ และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า พร้อมจะลาออกทุกเวลานั้นเมื่อคิดได้เช่นนี้ก็ควรที่จะลาออกไปเลย เพื่อแสดงความเสียสละในทางการเมืองไม่ต้องมารออะไรอีกแล้ว และที่สำคัญ จำนวนคะแนนที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนที่มีถึง 10 ล้านเสียง แสดงให้เห็นแล้วว่า มีคนถึง 10 ล้านคนที่ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นนายกฯ

การที่คนจะมาเป็นนายกฯได้จะต้องเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เป็นนายกฯของคนแค่16 ล้านคน ที่เลือกพรรคไทยรักไทย รวมทั้งคุณทักษิณก็ได้เป็นบุคคลที่ล้มละลายทางการเมือง ดังนั้น เขาเองไม่สมควรที่จมดำรงตำแหน่งนายกฯอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ก็เป็นการสะท้อนแล้วว่าพวกเขาปฏิเสธการเลือกตั้ง ที่ไม่ยอมรับการจัดการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส แต่คุณทักษิณยังดื้อดึงไม่ยอมรับความเป็นจริง คือ คุณต้องลาออกไป เพราะคนไทยไม่ต้องการขบวนการโกงบ้านเมือง นพ.นิรันดร์ กล่าว

รักษาการ ส.ว.อุบลราชธานี กล่าวว่า สำหรับการปฏิรูปการเมืองจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้ายังมีคนที่ชื่อทักษิณอยู่ในสังคมไทย แต่ถึงแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงอยู่ในสังคมต่อไปต่อให้มีการปฏิรูปการเมืองก็เป็นการปฏิรูปที่จอมปลอม หรือการที่คิดจะตั้งกรรมการกลางขึ้นมา เพื่อการสร้างความสมานฉันท์เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น เพราะอย่างการที่รัฐบาลเคยได้ตั้ง กอส.และให้นายอานันท์เป็นประธาน แต่ก็ไม่ได้มีอำนาจอะไร เพราะอำนาจไปอยู่ที่ตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ หมด จึงเชื่อได้ว่าการตั้งกรรมการในครั้งนี้ก็จะเป็นแบบเดียวกัน

หยุดโกหกประชาชนได้แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของความสมานฉันท์ เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายฝ่ายเคยเสนอแนวทางในการสร้างความสมานฉันท์มาก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้งที่ต้องการให้ท่านเองเว้นวรรคทางการเมือง แต่ที่คุณทักษิณไม่ยอม เพราะแนวทางที่มีการเสนอนั้นเป็นแนวทางที่คุณทักษิณเสียประโยชน์ จึงไม่สนใจในแนวทางดังกล่าว แต่แนวทางที่ตัวเสนอกลับมีข้อแม้เต็มไปหมดที่เป็นไปเพื่อรักษาอำนาจทางการเมือง ซึ่งก็เช่นเดียวกับการปฏิเสธการแก้ปัญหาโดยการใช้มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ แต่ทางพรรคไทยรักไทยกับเสนอจะใช้มาตรานี้เพื่อแก้ปัญหาในกรณีที่ไม่มี ส.ส.ครบเพื่อเปิดประชุมสภา รักษาการ ส.ว.อุบลฯ กล่าว

นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า ที่มีสมาชิกรัฐสภาออกไปแสดงความคิดเห็นนอกสภานั้น เพราะถูกปิดตายและครอบงำด้วยระบอบทักษิณที่ไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่มีสมาชิกถูกซื้อโดยฝ่ายบริหาร รัฐสภาจึงถูกทำลายด้วยระบอบทักษิณ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์