´ประสงค์´ ตีชิ่งไม่เกี่ยว ถ้ามีพระสงฆ์มรณภาพ

การประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญวาระ 2 ขั้นแปรญัตติวันนี้ (19 มิ.ย.) เริ่มพิจารณาส่วนที่ 7 แนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ ในหมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ มาตรา 83 รัฐต้องดำเนินการตามแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตลอดช่วงเช้า พิจารณาได้เพียงมาตราเดียว

เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง

กับผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ของผู้ใช้แรงงาน การควบคุมรักษาวินัยทางการคลังเพื่อให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ สนับสนุนการแข่งขันเสรีด้านการค้าโดยอาศัยกลไกตลาด ส่วนหมวดที่ 6 รัฐสภา ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถาบันการเมืองที่หลายฝ่ายต่างให้ความสำคัญและขอแปรญัตติไว้จำนวนมาก คาดว่าอาจพิจารณาได้ในช่วงบ่าย

ยังคงมีความเคลื่อนไหวที่รัฐสภาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มพระสงฆ์ ที่เรียกร้องให้บรรจุ "พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ" ที่ด้านหน้ารัฐสภา แม้จะเงียบเหงา หลังวานนี้ (18 มิ.ย.) ที่ประชุม ส.ส.ร. มีมติเลื่อนการพิจารณา มาตรา 78 ที่ต้องพิจารณาร่วมกับ มาตรา 2 และมาตรา 37 ออกไปอีกเป็นครั้งที่ 2 เป็นระหว่างวันที่ 2728 มิ.ย.นี้ เนื่องจากนายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทำหนังสือขอให้เลื่อนการพิจารณาทั้ง 3 มาตราออกไปก่อน โดยอ้างว่า เพื่อให้ได้ทางออกที่ดีสุด

สำหรับพระสงฆ์ 5 รูป

ที่ตั้งสัตย์ปฏิญาณตน นอนในโรงศพ วันนี้ มีสภาพร่างกายอิดโรยอย่างมาก หลังงดฉันอาหารและน้ำประท้วงตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำพระสงฆ์ 1 รูป ส่งโรงพยาบาลสงฆ์แล้ว ขณะที่พระสงฆ์รูปอื่นที่เหลือ ยังคงงดฉันอาหารและน้ำต่อไป

กล่าวถึงกรณีที่พระสงฆ์ระบุให้กรรมาธิการยกร่างฯ จะต้องรับผิดชอบ หากมีพระสงฆ์มรณภาพ เพราะอดอาหาร ในการเรียกร้องให้บรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ ว่าตนจะพูดประเด็นที่เกี่ยวกับศาสนา เมื่อถึงกำหนดที่จะพิจารณาเรื่องนี้ และย้ำว่าได้พูดหลายครั้งแล้วว่า จะต้องพิจารณาด้วยว่า การประพฤติปฏิบัติของพระสงฆ์ บางครั้งถูกต้องกับสมณเพศหรือไม่

ผมคิดว่าพระเถระผู้ใหญ่ที่ดูแลพระที่มาชุมนุมหน้ารัฐสภา

"ควรดูว่ามีการประพฤติปฏิบัติที่เหมาะสมหรือไม่ การกระทำเช่นนี้ ทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความรู้สึกทางลบมากกว่า ผมคิดว่าพระควรยึดปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ตามกิจของสงฆ์ จะได้ไม่มีปัญหา และที่บอกว่า ถ้าพระมรณภาพขึ้นมา เป็นความผิดของผม ผมว่าเรื่องนี้ขึ้นศาล ศาลก็ไม่รับฟัง เพราะผมไม่ได้เป็นคนทำ" น.ต.ประสงค์ กล่าว และย้ำว่าต้องการให้พระสงฆ์ใช้สติพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ ต้องเข้าใจว่าเหตุผลสำคัญอยู่ที่ไหน และเมื่อใดที่มีการพิจารณาเรื่องนี้ ตนจะชี้แจงให้ทราบ ดังนั้น อย่าไปทรมานตัวเองเลย

น.ต.ประสงค์ ยังยอมรับว่า

มีความเป็นห่วงว่าจะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญไม่ทันกรอบเวลาที่กำหนดไว้ โดย ส.ส.ร.จะต้องพิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ บางครั้ง ส.ส.ร.ใช้เวลาในการแก้ไขถ้อยคำมาก จึงควรหารือว่าควรจะดำเนินการประชุมอย่างไรให้เร็วขึ้น

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ