ขิงแก่ชื่อ จิ๋ว กับคำถามสำคัญ ขงเบ้ง วัย 83 กลับมาเคลื่อนไหวการเมืองทำไมกัน?

ขิงแก่ชื่อ "จิ๋ว"

มติชนสุดสัปดาห์ 8-14 พฤษภาคม 2558

นับตั้งแต่เสียงระเบิดดังขึ้นที่ห้างเซ็นทรัลเกาะสมุย

สะเก็ดระเบิดจากฝั่งรัฐบาลก็พุ่งเป้าไปที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อย่างตั้งใจและเจตนา

แม้ไม่เอ่ยชื่อ แต่ก็ชัดเจนอย่างยิ่ง

จนถึงวันนี้คดีบอมบ์เซ็นทรัล สมุย ยังไม่คืบไปถึงไหน

หลักฐานที่มีในมือค่อนข้างชัดว่าผู้ก่อการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นคนทำ

แต่ไม่มีหลักฐานใดเลยที่จะเชื่อมโยงว่า "นักการเมือง" คนไหนเป็นจอมบงการตาม "ธง" ที่ฝ่ายการเมืองปักไว้ตั้งแต่เริ่มทำคดี

อย่างไรก็ตาม การโยนสะเก็ดระเบิดใส่ พล.อ.ชวลิต ครั้งนี้เป็นสัญญาณทางการเมืองว่า คสช. เพ่งเล็ง "บิ๊กจิ๋ว" เป็นพิเศษ

ทั้งที่วันที่ 15 พฤษภาคมนี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จะมีอายุครบ 83 ปีเต็ม

หรือว่า "บิ๊กจิ๋ว" คือ "ขิงแก่"

ยิ่งแก่ ยิ่งเผ็ดร้อน

หลังจากเจอแรงระเบิดจาก คสช. แทนที่ "บิ๊กจิ๋ว" จะหยุดนิ่ง

เขากลับเคลื่อนไหวมากขึ้นกว่าเดิม

การไปออกรายการโทรทัศน์ที่สถานีพีซทีวีของคนเสื้อแดงทั้งที่เพิ่งโดนคำสั่งปิด

เป็นการแสดงการท้าทายแบบ "ไม่กลั๊ว-ไม่กลัว"

และแสดงความเป็น "พี่ใหญ่" ในทางการเมือง

พอทหารเข้าคุมสถานีปั๊บ

"บิ๊กจิ๋ว" ก็ขยับไปหาชาวนาที่อยุธยาต่อ

คำถามที่ตามมาก็คือ "บิ๊กจิ๋ว" เคลื่อนไหวเช่นนี้มีเป้าหมายอะไร

เพราะที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้เป็นแกนนำพรรคเพื่อไทย

และไม่ใช่แกนนำคนเสื้อแดง

ทำไม??

ต้องยอมรับว่าทุกครั้งเกิดการรัฐประหารจะเกิด "สุญญากาศ" ทางการเมืองขึ้นมา

ถ้ากลุ่มการเมืองไม่จับตัวเป็นก๊วนใหม่

พรรคการเมืองใหญ่ที่เป็นคู่ปรับกับทหารก็จะต้องหา "หัว" ใหม่

ครั้งก่อนตอนที่พรรคไทยรักไทยแปลงกายเป็นพรรคพลังประชาชนหลังรัฐประหาร 2549

พล.อ.ชวลิต ได้รับการทาบทามให้เป็นหัวหน้าพรรค

แต่เขาต่อรองมากไป

สุดท้ายหวยจึงตกไปอยู่ที่นายสมัคร สุนทรเวช

และในที่สุดนายสมัครก็ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี

บทเรียนจากประวัติศาสตร์ในครั้งนั้น

อาจเป็นคำตอบของการเคลื่อนไหวในครั้งนี้

ความเคลื่อนไหวของคนชื่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ