แม้ว หวั่นสื่อตปท.เข้าใจผิดการเมืองไทย ตั้ง สุรเกียรติ์-กันตธีร์-สุรนันทน์ แจง

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.40 น. นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองและสถานการณ์หลังการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านไปเมื่อวันที่ 2 เม.ย.เป็นที่สนใจจากสื่อมวลชนต่างประเทศจำนวนมาก ดังนั้นก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี นายกันตธีร์ ศุภมงคล รมว.ต่างประเทศ และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนต่างประเทศในเรื่องราวต่าง ๆ ด้วย

นพ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังขอให้รัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงของส่วนราชการบางแห่งที่ถูกกล่าวหาในการดำเนินการ หรือถูกสาธารณะตั้งข้อสงสัยและซักถาม ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับสาธารณะชน ผ่านทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลเกิดความกระจ่างมากขึ้น โดยเฉพาะหลายคำถามที่มีการสอบถามในช่วงที่ผ่านมา ก็ขอให้ทั้งรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงไปดำเนินการชี้แจงให้ชัดเจน โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายสุรนันทน์ เป็นผู้ประสานงานเพื่อให้รัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงได้ชี้แจงต่อไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่มีคือเรื่องการขายหุ้นของนายกรัฐมนตรี เรื่องการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สาเหตุที่ให้ชี้แจงช่วงนี้เพราะช่วงที่ผ่านมาอยู่ในช่วงการเลือกตั้ง ถ้ารัฐมนตรีชี้แจงอาจจะเข้าข่ายว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะรัฐมนตรีบางคนก็เป็นผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ แต่ในช่วงนี้ผ่านการเลือกตั้งแล้วก็ควรที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อให้เกิดความเข้าใจ อย่างไรก็ตามในที่ประชุมครม.ไม่มีการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์การเมืองว่าทิศทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มีแต่พูดถึงผลการเลือกตั้งว่าจะต้องรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งคะแนนโนโหวตนั้นเท่าที่ดูสัดส่วนใกล้เคียงกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คือส่วนใหญ่เป็นคะแนนของพรรคฝ่ายค้าน และผู้ที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ใคร รวมถึงประชาชนที่อยากให้ทุกอย่างสงบ ส่วนคะแนนที่เลือกพรรคไทยรักไทยประมาณร้อยละ 60 ก็ใกล้เคียงกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

ต่อข้อถามว่าหลายฝ่ายมองว่าข้อเสนอของนายกรัฐมนตรียังมีเงื่อนไขอยู่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านไม่มั่นใจข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีก็เป็นเรื่องที่จะว่ากันไป แต่อยากถามว่าวันนี้ต้องการความสมานฉันท์หรือไม่ เมื่อนายกรัฐมนตรีเสนอแนวคิดทางฝ่ายค้านก็ควรตอบมาเลยว่าคิดอย่างไร ที่ผ่านมาฝ่ายค้านอาจระแวง ซึ่งทำให้ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ เพราะฉะนั้นควรที่จะตอบมาว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย และถ้าจะส่งตัวแทนเข้ามาร่วมเป็นรัฐบาลแห่งชาติก็จะทำให้สถานการณ์สงบ แต่หากจะยืนยันกระต่ายขาเดียว หรือแปรเจตนาเป็นอื่นก็คงจะไม่มีข้อยุติ