พีเน็ต ยื่นผู้ตรวจฯ รัฐสภาสอบเอาผิด กกต.ฐานจัดเลือกตั้งขัด รธน.
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2549 14:15 น.
พีเน็ต เดินหน้าเอาผิด กกต. ยื่นหนังสื่อผู้ตรวจการรัฐสภา สอบเลือกตั้ง 2 เม.ย. จัดคูหาไม่ชอบธรรมขัด รธน. มาตรา 104 จี้เอาผิดยกเลิกผลเลือกตั้ง ยันไม่ใช่พวกกวนน้ำให้ขุ่นแต่ทำหน้าที่ตรวจสอบเพื่อความถูกต้องเท่านั้น
วันนี้ (4 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สายหยุด เกิดผล รองประธานมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) พร้อมด้วยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้ประสานงานพีเน็ต, นายวรินทร์ เทียมจรัส เลขานุการพีเน็ต, นายจำนง รัตนเกส กรรมการพีเน็ต และนางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้อำนวยการเครือข่ายการเลือกตั้งเสรีภูมิภาคเอเชีย (ANFREL) ได้เดินทางเข้าพบนายเสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนการกระทำผิด กฎหมายรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยรายละเอียดหนังสือที่มูลนิธิองค์กรกลางฯ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนมีเนื้อหาระบุว่า การจัดตั้งการจัดการเลือกตั้งของ กกต.ในวันที่ 2 เม.ย.49 มีการกำหนดให้คูหาเลือกตั้งหันออกด้านหน้า ทำให้การลงคะแนนเสียงของประชาชนผู้มาใช้สิทธิสามารถสังเกตเห็นได้โดยง่ายจากบุคคลอื่น เช่น กรรมการประจำหน่วย หรือหัวคะแนนพรรคการเมือง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดต่อหลักการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนต้องใช้สิทธิเลือกตั้งโดยเสรี ปราศจากความรู้สึกเกรงกลัวอิทธิพล หรือหวั่นวิตกว่าการตัดสินใจอาจถูกล่วงรู้จากบุคคลอื่น และมีผลต่อความมั่นคง ปลอดภัยในการดำรงชีวิต
ทั้งนี้ พีเน็ตเห็นว่าการจัดการเลือกตั้งดังกล่าวของ กกต.ยังขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 104 วรรค 3 ที่ระบุให้การเลือกตั้งต้องใช้วิธีการออกเสียง ลงคะแนนโดยตรงและลับ ด้วยเหตุดังกล่าว มูลนิธิองค์กรกลางฯ จึงขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ได้พิจารณา และมีมติว่ารูปแบบการจัดคูหาเลือกตั้งที่หันออกด้านหน้าขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน และหลักการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย และขัดกับหลักรัฐธรรมนูญมาตรา 104 วรรค 3 หรือไม่ และหากเห็นสมควรขอให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่จะมีผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ตามความเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภานั้น คณะมูลนิธิองค์กรดังกล่าวได้นำวีซีดีบันทึกภาพการใช้สิทธิลงคะแนนเสียงของบุคคลที่มีชื่อเสียง 3 คน ประกอบด้วย คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน, คุณหญิงพจมาน ชินวัตร และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ มาฉายแสดงให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและผู้ตรวจการรวมทั้งสื่อมวลชนได้ดู เป็นหลักฐานด้วยว่าการจัดคูหาเลือกตั้งหันออกด้านหน้า สามารถทำให้บุคคลภายนอกมองเห็นการลงคะแนนเสียงได้อย่างชัดเจนเพียงใด
ขณะที่ พล.อ.สายหยุด เกิดผล รองประธานมูลนิธิฯ กล่าวย้ำภายหลังยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่า การดำเนินการเรื่องนี้เราไม่ได้เป็นพวกที่จะกวนน้ำให้ขุ่น แต่เนื่องจากเราเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบ ดังนั้น จึงต้องทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง เพื่อจะได้มีการวางหลักการที่ถูกต้องในการจัดการเลือกตั้งต่อไป ซึ่งขอยืนยันว่าเราทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองดี และองค์กรมีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง