มท.1 นำทีมแถลงผลงานรอบ 6 เดือน ชมข้าราชการทุกระดับ ทำงานดี กำชับโปร่งใส ไม่ขัดแย้ง ลั่นเอาผิดแน่ใครเอี่ยวทุจริต ปัดพวกเต้าข่าว โยกย้ายลอตใหญ่ ยันปรับทีเดียวเดือน ต.ค.
เมื่อวันที่ 21 เม.ย ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
พร้อมด้วย นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย และนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ของกระทรวงมหาดไทย โดย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ผลงานของกระทรวงมหาดไทยที่ได้ดำเนินการมา เช่น การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ได้กำหนด 7 มาตรการเข้ม เพื่อป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ส่วนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ปรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ คือ “ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ 37 อำเภอ” โดยมีนายอำเภอเป็นหลัก ร่วมกับฝ่ายทหารและตำรวจ เพื่อดูแลความปลอดภัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ขณะเดียวกันด้านการปฏิรูป การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ได้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปใน 76 จังหวัด ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าประเทศมีความขัดแย้ง จึงขอย้ำว่าจะเห็นต่างอย่างไรไม่สำคัญ แต่ไม่จำเป็นต้องขัดแย้ง ไม่นำไปสู่การใช้ความรุนแรง
พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงภาพรวมการทำงานตลอด 6 เดือนว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นองค์กรที่ทำงานได้ดี ข้าราชการมีประสิทธิภาพ คนกระทรวงมหาดไทยก็คล้ายกับกองทัพ
ซึ่งตนพึงพอใจการทำงานขอกระทรวงมหาดไทย แม้ก่อนหน้าจะเคยกังวลในส่วนของท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่เมื่อเห็นแล้วก็พบว่าทำงานได้ดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ทำงานได้น่าพึงพอใจ ขณะที่ในเรื่องความโปร่งใส เราต้องทำให้เห็นว่าโปร่งใสในทุกระดับของการทำงาน ต้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชน ทำงานตามอำนาจหน้าที่ ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับงานที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง อย่าให้อำนาจอื่นมายุ่งเกี่ยวแล้วทำให้เสียหายแก่ราชการ
เมื่อถามถึงการดำเนินการกับข้าราชการที่ทุจริต พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า โดยหลักการรัฐบาลดำเนินการอยู่บนกฎหมาย
ถ้าเรื่องใดที่ดำเนินการได้ตามกฎหมายจะทำทันที ถ้ามีการร้องเรียนกันต้องมีการสืบสวนสอบสวน โดยให้ผู้ถูกร้องเรียนได้มีโอกาสชี้แจง หากพบว่ามีการทำความผิดก็ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ อย่างไรก็ตามสำหรับการดำเนินการกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตตามที่นายกรัฐมนตรีได้ส่งรายชื่อให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องนั้น ตนได้มอบให้ปลัดกระทรวงดำเนินการแล้ว หากพบว่ามีหน่วยงานใดเกี่ยวข้องให้ดำเนินการทันที แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ถ้ากฎหมายจบแล้วต้องมีการดำเนินการแน่ ถ้าสืบสวนอยู่ต้องรอ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ก็ต้องทำกันไป
" ส่วนการปรับย้ายตอนนี้ เท่าที่ดูแลยังไม่มี การจะปรับย้ายระดับสูง น่าจะปรับใหญ่ทีเดียวคือเดือน ต.ค. แสดงว่ากระแสข่าวมันเรียกว่ามโนก็ไม่ใช่ ต้องเรียกว่าเต้าข่าว ต้องไปถามคนเขียน เพราะคนที่เป็นเจ้าของเรื่องยังไม่ได้คิด “ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว.