บิ๊กตู่ลั่นไม่อยู่ต่อ รธน.ผ่านจัดเลือกตั้ง

บิ๊กตู่ลั่นไม่อยู่ต่อ รธน.ผ่านจัดเลือกตั้ง

"บิ๊กตู่"ติงสื่อพาดหัวข่าวสร้างวาทกรรม ทำประชาชนตกใจ บั่นทอนกำลังใจ ส่อขัดแย้ง ยันทุ่มเทแก้ปัญหาทั้งระบบ ไม่คิดสืบทอดอำนาจ โรดแม็พคงเดิม แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซัดพวกหนีคดีไปต่างประเทศ แฝงตัววิจารณ์ทางเฟซบุ๊ก


เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)


 กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างการแถลงผลการดำเนินการของรัฐบาลรอบ 6 เดือน ว่า 6 เดือนในการบริหารราชการแผ่นดินมีเงื่อนไขต่างจากช่วงที่ผ่านมา ทำเพื่อการปฏิรูป แก้ไขปัญหาประเทศทั้งระบบ มาสานงานต่อจาก คสช.ที่มีแผนการแก้ปัญหาประเทศเป็น 3 ระยะ ระยะแรกคือการระงับยับยั้งการแก้ปัญหาจากการที่รัฐบาลในอดีต มิอาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ระยะที่ 2 การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และการใช้งบประมาณปี 2558 และในปัจจุบันกำลังเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ โดยพยายามที่จะเดินหน้าดำเนินการต่าง ๆ เช่น การจัดระเบียบสังคม การวางรากฐานที่มั่นคงให้กับประเทศ ระยะที่ 3 หากรัฐธรรมนูญผ่านได้โดยไม่มีความขัดแย้ง ก็จะสามารถจัดเลือกตั้งได้ ฉะนั้นอยู่ที่ประชาชนทั้งประเทศจะเป็นผู้ตัดสินใจ อย่ามาพูดว่าตนดึงไว้ เพราะอยากอยู่ต่อ ทั้งที่ตนไม่คิดอยากอยู่ต่อ ที่ผ่านมาเราได้มุ่งมั่นทุ่มเทแก้ปัญหาทั้งระบบ ส่วนเรื่องของเงื่อนไขเวลา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจว่าทำไมเรื่องที่เราได้แก้ไขไปนานแล้ว

กลับยังมีคนนำปัญหาเดิมมาพูดถึงอีก และหลายคนมักวิจารณ์ หรือตำหนิ โดยไม่ฟังเรื่องให้จบก่อน ยกตัวอย่างเรื่องภาษี ซึ่งประชาชนยังไม่รู้เลยว่าตกลงจะต้องเสียภาษีกันเท่าไหร่ ก็นำไปวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิกัน ทั้งที่เรื่องของภาษีเป็นการทำเพื่อวันหน้า สำหรับนิสัยที่ชอบสร้างวาทกรรมหรือพาดหัวข่าวนั้น ตนเห็นข่าวแล้วรู้สึกโมโห แม้สาระข้างในดูดี ทำไมต้องมาพาดหัวข่าวหวือหวา ทำให้คนตกใจ หรือให้เกิดความขัดแย้ง รวมถึงบั่นทอนกำลังใจการทำงานของรัฐบาล ถ้าสร้างวาทกรรมด้วยการอ้างว่าทำเพื่อประชาชน เช่น เรื่องโครงการรับจำนำข้าว ที่อ้างว่าทำเพื่อชาวนา แต่คนไทยไม่ใช่มีแค่เกษตรกรอย่างเดียว การจะนำเงินไปช่วยแต่เกษตรกรปลูกพืชชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้ให้เขาเรียนรู้ สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบาย 11 ข้อ นอกจากนี้ขอย้ำว่าวาทกรรมที่อ้างว่าตนอยากอยู่ในอำนาจนาน ๆ นั้น ก็ไม่ใช่ อำนาจของตนคือการทำให้เกิดความเป็นธรรมและขับเคลื่อนประเทศไปได้ รัฐบาลใช้อำนาจตามกรอบของกฎหมาย  อีกทั้งทุกคนสามารถวิจารณ์ได้ แต่ขอให้สร้างสรรค์ และขอให้ทุกฝ่ายได้พิจารณาอ่านหนังสือผลงานของรัฐบาลที่เราได้แจกไปด้วยก่อนที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การขับเคลื่อนเร่งรัดนโยบายรัฐบาล ตนเร่งรัด และให้มีการรายงานเข้ามาทุกสัปดาห์ เรื่องไหนที่มีข้อติดขัดก็ให้เร่งแก้


บางเรื่องก็ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวไปช่วยแก้ไข ส่วนการปฏิรูป หลายประเทศใช้เวลา 30-40 ปี แต่ของไทย บางคนมาถามว่าอยู่นั้นว่าเสร็จแล้วหรือไม่ เสร็จเมื่อใด ทั้งที่เริ่มทำมาแค่ 6 เดือนเอง แต่ต่างประเทศเข้าใจเราแล้ว ขณะที่เรื่องมาตรา 112 ต่างประเทศก็เข้าใจเราแล้วเช่นกัน และคนที่ถูกจับในความผิดมาตรานี้ก็มีหลักฐานการทำผิดชัดเจน แต่ยังมีบางคนก็ไปให้ท้ายเขา ไปแฝงตัวในเฟซบุ๊ก ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ไปพูดผ่านเฟซบุ๊ก

“คน 60 กว่าล้านคนอยากเห็นบ้านเมืองเดินไป แต่รัฐบาลทำอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องไปทั้งรัฐบาล ข้าราชการ ประชาชน ต้องช่วยกันทั้งหมด ใครที่ว่าอะไรเรามา ถือเป็นแรงใจให้ผม ยิ่งว่าผม ผมยิ่งทำมากขึ้น มีแรงมากขึ้นกว่าเดิม เข้มงวดมากขึ้นทั้งในเรื่องกฎหมาย เรื่องที่ต้องแก้ไข ดังนั้นถ้ายิ่งว่า ผมยิ่งสู้ ยิ่งมีกำลังใจ พักผ่อนมา 5 วันแล้ว พร้อมสู้ทุกอย่าง”นายกรัฐมนตรี กล่าว.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์