กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามการทุจริตในวงราชการว่า เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งที่รัฐบาลเอาจริงในเรื่องนี้เพราะได้ประกาศเป็น วาระแห่งชาติ แต่จะดียิ่งขึ้นหากเป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงการสร้างภาพต่อต้านการคอรัปชั่น เพราะตั้งแต่มีการเตรียมการยื่นรายชื่อข้าราชการทุจริตต่อนายกฯก็เป็นกระแส ที่คนสนใจอย่างต่อเนื่อง และการพิจารณารายชื่อข้าราชการทั้ง 100 คนที่อยู่ในมือนายกฯ ต้องไม่มีธง และต้องพิจารณาอย่างโปร่งใสเปิดโอกาสให้ชี้แจงอย่างเต็มที่
ถ้าไม่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลไกปราบปรามทุจริตปกติอย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.),สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จะไม่ทำงานหรือ ทั้งที่ข้อเท็จจริงหน่วยงานต่างๆต้องทำอย่างต่อเนื่อง อย่ารอเพียงอำนาจเด็จของของ ม. 44 ถึงจะดำเนินการ และผลการตรวจสอบที่จะออกมาจะเป็นเครื่องชีวัดว่าการปราบปรามทุจริตครั้งนี้ เป็นวาระแห่งชาติจริง หรือเป็นเพียงเครื่องมือในการข่มขู่หรือทำร้ายข้าราชการที่มีจุดยืนทางการ เมืองที่ต่างจากรัฐบาล