นายกฯเชื่อต่างชาติเข้าใจไทย ไม่สนทักษิณล็อบบี้บอยคอต

จ้างบริษัทลอบบี้ยิสต์ขู่บอยคอตไทย เชื่อนานาชาติเข้าใจ อัดม็อบอย่าใช้วิธีเก่าบุกบ้านป๋า วอนหันมาเชื่อกระบวนการยุติธรรม ด้าน ประสงค์ สุดทน ทักษิณปล่อยข่าว กลับไทย ทำลายชาติ ทำต่างชาติเข้าใจผิดไทยไม่ปลอดภัย

(13มิย.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดงาน มหกรรมนักอ่าน เปิดประตูสู่โลกใหม่ เปิดใจให้เรียนรู้ ถึงกรณีที่บริษัทเบเกอร์ บอทส์ บริษัทที่ปรึกษาด้านกฏหมาย ที่ว่าจ้างโดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นานาชาติ ทบทวนเรื่องการลงทุนในประเทศไทย

หลังจากที่ คตส.มีมติอายัดทรัพย์ครอบครัวชินวัตร ว่า

เป็นเรื่องที่เราได้ทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว 6 เดือน ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามารับหน้าที่ ซึ่งตนคิดว่าส่วนใหญ่เข้าใจว่า ประเทศเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่จำเป็นจะต้องแก้ไขวิกฤติของชาติ และตลอดการทำงาน 6 เดือนที่ผ่านมา เราก็ได้ดำเนินไปตามแนวทางของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว

ในการที่จะนำบ้านเมือง

ไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้ประชาคมโลกได้รับทราบ ว่าเราพยายามที่จะแก้ไขเหตุวิกฤติและมุ่งไปสู่อนาคตที่ดีกว่า

แสดงว่ารัฐบาลมั่นใจใช่หรือไม่ว่า นานาประเทศยังเข้าใจไทย แม้จะมีการล็อบบี้ให้บอยคอตการลงทุน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าเราสามารถที่จะทำความเข้าใจ เพราะได้ทำความเข้าใจล่วงหน้าไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า

ประเมินหรือยัง ระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในต่างประเทศกับอยู่ในประเทศไทย อย่างไหนจะส่งผลกระทบมากกว่ากัน พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการประเมิน ทุกอย่างคงเป็นไปตามที่หน่วยงานต่างๆดำเนินการ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาชี้แจงเรื่องทรัพย์สินตามที่ คตส.ได้อายัดทรัพย์ไว้ ก็ถือเป็นสิทธิ และความจำเป็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้ามาป้องกันทรัพย์สินของตัวเอง

เมื่อถามถึงข่าวที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะแตกหักในวันนี้ ( 13 มิ.ย.)

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เราพยายามที่จะแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยวิถีทางของการเจรจา ซึ่งหากเราช่วยกันที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นไปด้วยสันติวิธี ตามกระบวนการยุติธรรมก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุม

ขู่จะเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ นั้นก็เป็นการใช้วิธีการที่ตนคิดว่ามันควรจะหมดไปแล้วจากสังคมไทย เราควรจะยึดถือกระบวนการยุติธรนมเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหามากกว่า

กล่าวกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาจกลับไทยในเร็วๆนี้ ว่า จะกลับหรือไม่กลับเป็นเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ ถ้าอยากกลับก็กลับ ไม่อยากกลับก็ไม่ต้องกลับ ทั้งนี้เห็นว่าการที่บอกว่าจะกลับอาจจะมีวาระแฝงเร้นอยู่ สามารถมองได้ 2 ทางคือ 1.หาว่าเขาไม่ให้กลับ 2.ต้องการให้คนที่สนับสนุนเขาในระบอบของเขานั้นรู้ว่ากำลังจะมาแล้วรวมตัวกันเถอะ

สำหรับตัวผมเองเห็นว่า

คนไทยจะกลับก็กลับได้ แต่สำหรับคนๆนี้แล้วผมเรียนตรงๆไม่อยากจะกลับมาหรอก ที่จะบอกว่าไม่กล้ากลับก็เกินไปแต่ไม่อยากกลับหรอก แต่จะกลับมาต่อเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านเมืองเรียบร้อยแล้วโดยที่เขามีความปลอดภัยมากที่สุด และการชุมนุมต่างๆ

หากไม่เลยเถิดจนเกินไป

ความวุ่นวายก็จะไม่เกิด กระบวนการเลือกตั้งก็จะเกิดภายในปลายปีนี้ได้ ทั้งนี้ หากอยากให้บ้านเมืองเรียบร้อย อยากมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งก็ไม่ควรก่อเรื่องวุ่นวาย ไม่อย่างนั้นจะมีปัญหาน.ต.ประสงค์ กล่าว

จะกลับมาจะส่งผลให้การชุมนุมมีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าอยากกลับเมื่อไหร่ก็กลับ ไม่ต้องออกมาพูด เพราะการพูดแบบนี้ทำให้คนเข้าใจว่าบ้านเมืองไม่ปลอดภัยทำให้กลับไม่ได้ ส่งผลให้ต่างประเทศเข้าใจผิด เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีอะไรกับประเทศไทยเลย

พยายามส่งสัญญาณ

ให้คนที่อยู่ในระบอบรวมตัวกันไว้นะ ส่งสัญญาณเพื่อบอกว่า เดี๋ยวก็มาแล้ว เขายังอยู่อย่าทิ้งไปนะ รวมตัวกันไว้นะ เงินยังมีนะ หลายเลยนะ น.ต.ประสงค์ กล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก