"บิ๊กตู่"ระบุใช้หลักทหารขับเคลื่อนประเทศ ยันระวังการใช้อำนาจ แฉกลุ่มต้านมีเบื้องหลัง ประกาศกร้าว "อย่าให้มากเกินไป" ลั่นไม่ยอมให้ใครชุมนุมยืดเยื้อ วีนสื่อนอกเข้าใจผิดสั่งประหารนักข่าว ยันไม่เคยปิดปากสื่อ แต่ถ้าเขียนไม่ดี จำเป็นต้องเรียกมาคุย
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เป็นประธานงานสถาปนา โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ครบ 106 ปี และพิธีเปิดอาคารโรงเรียนเสนาธิการทหารบก(แห่งใหม่) ณ อาคารโรงเรียนเสนาธิการทหารบก (แห่งใหม่) กองคลังยุทโธปกรณ์สรรพวุธ ถนนพระรามที่ 5 เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า มีหลายคนไม่เข้าใจและเกรงกลัวต่ออำนาจทหาร ซึ่งยืนยันว่าทหารมีอำนาจในการสั่งการสู้รบ ช่วยเหลือสงคราม และผู้บังคับบัญชาจะต้องปกครองคน กว่า 3 แสนคน ที่ถืออาวุธอยู่ ยืนยันว่าผู้บังคับบัญชา จะไม่ทำนอกกรอบ แต่จะต้องมีการหารือร่วมกันและหาข้อยุติให้ได้ วันนี้ตนนำหลักสูตรทหารที่เน้นการมองให้ลึกมาใช้ ก็ถือว่าเพียงพอในการขับเคลื่อนทุกอย่าง มีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ แต่เชื่อว่าจะดีขึ้นกว่าเดิม วันนี้รัฐบาลต้องแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ขับเคลื่อนประเทศ และการปฏิรูปประเทศที่ต้องใช้เวลา ขณะเดียวกันประชาชนจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ต้องเป็นกลุ่มชน ซึ่งหากรัฐบาลไม่มีธรรมาภิบาลก็จะดึงเอากลุ่มชนเหล่านี้มาเป็นพวกตัวเองเหมือนที่ผ่านมา วันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาทุกอย่าง ถ้ายังไม่แก้ปัญหาต่อให้เลือกตั้งอีก 10 ชาติก็คงเป็นอยู่แบบนี้ ขณะนี้เราไม่มีปัญหากับประเทศอื่น เว้นแต่มีปัญหากันเอง ทุกประเทศยังเดินทางมาท่องเที่ยวทุกวัน ไม่ว่าจะยังมีกฎอัยการศึก หรือการประกาศใช้มาตรา 44 ก็ตาม
"หลายคนห่วงว่าเราจะหลงระเริงในอำนาจ แต่ผมคิดว่ายิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งต้องระวัง คนที่ให้ความสำคัญกับอำนาจส่วนใหญ่เป็นแต่กลุ่มผลประโยชน์ คนที่สนใจแต่มาตราโน้นมาตรานี้ ทำไมไม่มอง ว่าจะทำให้คนสามัคคีกันอย่างไร ตอนนี้เรามองปัญหาไม่เหมือนกัน ผมจำเป็นต้องมีอำนาจ และจะแก้ปัญหาโดยทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้บอกว่าต้องดีที่สุด แต่ต้องดีกว่าเดิม จะอาศัยผู้นำ หรือรัฐมนตรีคนเดียวไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อให้ประเทศเดินหน้า"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ประเทศชาติเสียหาย เพราะทำงานด้วยปาก มีการเขียนแผน แต่ไม่ลงมือทำจริง
รัฐบาลจึงต้องเข้ามาจัดระเบียบ บางคนทนไม่ได้ บอกไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งวันนี้จะไม่ใครเกรงใจ ตราบใดที่ยังมีการพูดให้กองทัพและประเทศเสียหาย เพราะตนต้องรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ขอให้คนไทยช่วยทำความเข้าใจ วันนี้รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนไทยทั้งหมด 60-70 ล้านคน ให้ได้ ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไรตนไม่สนใจ เพราะเวลาของเรามีจำกัด และต้องช่วยกันสวดมนต์ให้รัฐบาลใหม่สานให้ได้ด้วย ทุกคนต้องทำตามรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ถ้าทำตามความต้องการของตัวเอง ต่อให้มีรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย 300 กว่าฉบับ ก็แก้ไม่ได้ ยิ่งทำก็ยิ่งวุ่น บางประเทศไม่มีรัฐธรรมนูญ แต่ทำตามจารีตประเพณียังดีกว่า เพราะคนเขามีคุณภาพ มีตรรกะ และมีเหตุผล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีการล็อบบี้ให้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล
โดยใช้คำว่าประชาธิปไตย และใช้คำว่ากฎอัยการศึกในการคุกคามชีวิต วันนี้อ่านข่าวพาดหัวของสำนักข่าว CNN ที่ระบุว่าตนใช้อำนาจเต็มตามมาตรา 44 จะสั่งประหารนักข่าว ชึ่งตนอยากให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และตนก็จะให้สัมภาษณ์น้อยที่สุด เพราะไม่มีอะไรดีขึ้นมา ถ้าตนปรับปรุงตัวคนเดียว แต่คนอื่นไม่ปรับปรุงตัว แล้วก็มาบอกให้ใจเย็นๆ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หากคนเหล่านั้นยังมาปรามาส ตนก็จะพูดให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทุกคนมีแผลไม่ควรออกมาพูดในสื่อด้วยซ้ำ
"ที่ผ่านมาผมได้บอกกับต่างประเทศเสมอว่าขอเวลาให้คนไทย แต่พอเริ่มทำก็มีปัญหา เพราะเขาไม่รู้ เห็นเพียงว่าบ้านเมืองเราสวยงาม แต่ไม่รู้ว่าข้างในเป็นโพรงทั้งสิ้น ตอนนี้เรากำลังเติมอิฐเติมทราย แต่ก็มีคนเอาน้ำมาราดตอนที่ยังไม่แห้ง คนพวกนี้ไม่ควรอยู่ในแผ่นดินนี้ ต้องใช้กฎหมายดำเนินการ ผมทนไม่ได้ที่จะให้ทำลายประเทศต่อไป ในเมื่อไม่เกรงใจผม ผมก็จะไม่เกรงใจใคร เพราะผมทำให้ประเทศผม ฉะนั้นคนที่ต่อต้านลองไปดูมีเบื้องหลังทั้งนั้น ผมไม่เคยละเมิดใคร และตั้งแต่ประกาศใช้กฏอัยการศึก หรือมาตรา 44 ก็ไม่เคยมีคนตาย มีแต่คนที่ใช้อาวุธต่อสู้เจ้าหน้าที่ ฉะนั้นอย่าให้มากเกินไป ส่วน สื่อก็ไม่เคยปิดปาก ไม่เคยปิดสักเล่ม ถ้าเขียนไม่ดีก็แค่เรียกมาคุยกัน ฉะนั้นต่อไปนี้ขอให้เขียนให้ดี ถ้าเขียนไม่ดีก็จำเป็น ผมไม่กลัวใครอยู่แล้ว ถ้าผมไม่กล้าก็ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ถ้าคิดว่าผมไม่ดีก็บอกผม ผมไปให้อยู่แล้ว พอพูดไปแล้วก็มีอารมณ์นิดหน่อย เพราะเหนื่อยแทบตาย แต่ยังวิจารณ์กันเยอะมาก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนดูแลทั้งเสียงส่วนใหญ่และส่วนน้อย แต่จะเอาประชาธิปไตยมาแบ่งพวกกันไม่ได้
การต่อต้านเป็นเรื่องธรรมดาในประชาธิปไตย แต่ในสมัยตนจะมาชุมนุมยืดเยื้อ 6-7 เดือนไม่ได้ อย่ามาใช้คำว่าประชาธิปไตยตอนนี้ เราให้อยู่แล้ว มันเดือดร้อนอะไรตรงไหน สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือการเลือกตั้ง มีรัฐธรรมนูญตามโรดแม็พ ไม่เคยเลื่อน ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ตอนนี้ก็แทบฆ่ากันตายอยู่แล้ว ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเกิดขึ้นต้องเน้นเรื่องปฏิรูปและธรรมาภิบาล ขอให้ส่งเสริมและอย่าทำร้ายกันและกัน.