2 เม.ย.58 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีท่าทีกังวลกับการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ว่า อย่ากังวลไปเลย เพราะคนในประเทศยังไม่กังวล ไม่มีอะไรที่แรงไปกว่าการรัฐประหารแล้ว การรัฐประหารถือแรงที่สุดแล้ว ที่ผ่านมาเราพยายามลดระดับลงเรื่อยๆ หากจะรู้สึกไม่ไว้วางใจต้องรู้สึกตั้งแต่มีการรัฐประหารแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่ยูเอ็นกังวลคือความไม่ชัดเจนถึงขอบเขตการใช้อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าจะตีกรอบไว้แค่ไหน พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า มาตรา 44 ไม่ได้เกิดในวันนี้ แต่มีมาตั้งแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว นับจากวันประกาศใช้จนถึงขณะนี้มีปรากฎการณ์อะไรบ้างที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่ามีการใช้อำนาจในลักษณะที่ลุแก่อำนาจ ก็ไม่มี
อย่างไรก็ตาม การใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในขณะนี้เป็นครั้งที่ 2 ส่วนเรื่องที่เหลืออยู่ระหว่างพิจารณาว่าสามารถจะใช้มาตรการตามปกติแก้ไขได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็ปล่อย แต่หากแก้ไม่ได้หรือแก้ไขไม่ทันจนสุ่มเสี่ยง และส่งผลกระทบในอนาคต ก็พร้อมที่จะใช้อำนาจดังกล่าว
รองโฆษกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีว่าสิ่งที่กังวลยังไม่เคยเกิดขึ้นเลย อย่าตีตนไปก่อนไข้ หากถามว่ามั่นใจว่าจะใช้อำนาจอย่างสร้างสรรค์จริงหรือไม่ ให้ย้อนกลับไปดูที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ประกาศรัฐธรรมนูญชั่วคราว มีอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นไปตามที่กังวลหรือไม่ ก็ไม่มี มาตรา 44 มีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าจะหยิบอำนาจดังกล่าวมาประกาศคำสั่งย่อยตรงไหน
เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีสิ่งใดการันตีว่าหัวหน้า คสช.จะไม่ใช่อำนาจเกินกว่าที่เคยระบุไว้ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ความเชื่อมั่นและเชื่อถือในตัวบุคคลเป็นสำคัญ ถามว่าเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นับตั้งแต่เข้ามาควบคุมอำนาจ หากไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าใครกล้าทำเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นทหาร หรือ ผบ.ทบ.ใครก็ได้จะกล้าทำ เพราะถ้าทำไม่สำเร็จก็เป็นกบฏ แม้กระทั่งมีปัญหาในสภาแล้วบริหารจัดการไม่ได้ ทุกคนก็จะมากดดันทหารว่าเมื่อไรจะออกมาเคียงข้าง เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องนี้ ทางสภาปฏิรูปพยายามหาช่องทางแก้ไข หากในวันหน้ามีปัญหาก็หาใครก็ได้ที่สภาเห็นชอบ โดยที่ไม่ใช่ทหารเข้ามาแก้วิกฤติปัญหาของชาติได้ จะได้ไม่ต้องวนเวียนอยู่กับการรัฐประหารโดยที่เราไม่ได้ไปสั่ง แต่สภาเขาต้องมองปัญหาเดิมเป็นตัวตั้งเพื่อนำไปพิจารณาเอง แต่กลุ่มการเมืองมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ ขอให้สังคมเข้าใจว่าไม่มีใครอยากอยู่ต่อนานทั้งที่เสร็จภารกิจแล้ว เพราะขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เครียดมากพอแล้วจากปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงข้อกังวลในประกาศคำสั่งให้มีการห้ามเสนอข่าว หรือห้ามจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ หรือการปิดสื่อ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่ากังวลอะไร ขอให้เข้าใจว่า วันนี้มีสื่อ 100 - 200 ค่าย มีทั้งที่ลงทะเบียนและไม่ลงทะเบียน เป็นสื่อที่มีคุณภาพและที่แฝงตัวแบบไม่มีคุณภาพ คือต้องการถามเพื่อให้ได้ยินคำถาม แต่ไม่ต้องการคำตอบ แต่เมื่อสื่อบริหารจัดการกันเองไม่ได้ จึงต้องมีตรงนี้เพื่อไปบริหารจัดการให้ แต่คิดว่าคงไม่ถึงขั้นไปปิดสื่อ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
