ทูลเกล้าฯเลิกอัยการศึก ‘บิ๊กตู่’ลุยม.44 กร้าว!ถ้าไม่ผิดอย่ากลัว
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ทูลเกล้าฯเลิกอัยการศึก ‘บิ๊กตู่’ลุยม.44 กร้าว!ถ้าไม่ผิดอย่ากลัว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ถึงความคืบหน้าการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกว่า ได้ทูลเกล้าฯขอยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะโปรดเกล้าฯลงมาเมื่อใด ส่วนการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 นั้นการร่างคำสั่ง คสช.ประกาศใช้ทำเสร็จนานแล้ว เมื่อโปรดเกล้าฯยกเลิกกฎอัยการศึกลงมา สามารถประกาศใช้ได้ทันที
เปิดร่างคำสั่งม.44เน้นความมั่นคง
สำหรับเนื้อหาในประกาศ คสช.ฉบับใหม่ที่จะออกโดยอาศัยมาตรา 44 นั้น นายกฯกล่าวว่า มี 5-6 ข้อ เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง การใช้กำลังทหารเข้าไปช่วยข้าราชการปฏิบัติงาน เช่น หากเกิดเหตุหรือพบการกระทำผิด เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปตรวจค้นควบคุมตัว สอบสวนร่วมกันได้ทันที โดยไม่ต้องขอหมายศาล และสามารถนำตัวไปสอบสวนได้ในสถานที่ที่ไม่ใช่ห้องคุมขัง เพราะถือว่าเป็นเพียงผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย หากพูดกันเข้าใจ ก็จะปล่อยตัวไปโดยไม่มีคดี ยกเว้นการใช้อาวุธสงครามเราปล่อยไม่ได้
ยืนขัง7วันใช้ศาลทหารแต่มี3ระดับ
ส่วนการพิจารณาคดีผู้กระทำความผิด ที่ไม่ใช่คดีความมั่นคงก็ขึ้นศาลปกติ แต่ถ้าเป็นคดีความมั่นคง รัฐบาลยังคงให้ศาลทหารเป็นหน่วยงานที่ดูแล แต่เพิ่มอำนาจจากศาลเดียวเป็น 3 ศาลคือ ศาลทหาร ศาลทหารกลางและศาลทหารสูงสุด เหมือนศาลพลเรือนคำสั่งนี้ยังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 7 วันเหมือนเดิม
ยันใช้สร้างสรรค์แก้ปัญหาปท.
“ถ้าไม่ทำความผิดจะมากังวลอะไร ยืนยันรัฐบาลจะใช้มาตรา 44 อย่างสร้างสรรค์ เพื่อดูแลความมั่นคง เชื่อว่าการใช้กฎหมายดังกล่าวแก้ปัญหาได้มากกว่ากฎอัยการศึก เพราะครอบคลุมทุกเรื่อง ถ้ามีการเอาปืนมายิงกันอีก เกิดความวุ่นวาย ผมก็ต้องจับ เราจะใช้กฎหมายแบบนี้ ไม่เช่นนั้นต้องไปรอหมายศาล วันนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน จะปล่อยให้เป็นแบบเดิมคงไม่ได้ ยืนยันทหารไม่เคยทำร้ายประชาชน และผมก็เป็นทหาร ถ้าคิดจะทำร้ายประชาชน ผมคงไม่ออกมาช่วย ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง ไม่ว่าจะเขตหรือสีไหนก็ไปช่วยทั้งหมด”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เตรียมรวมข้อมูลแจงตปท.
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานใดชี้แจงให้ต่างประเทศเข้าใจหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คงไม่ต้อง เพราะตนชี้แจงได้เพียงคนเดียว กระทรวงต่างประเทศก็มองในมุมต่างประเทศ แต่เรื่องเหล่านี้ตนก็พยายามอธิบายมาตลอด อย่างไรก็ตาม จะรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจอีกครั้ง วันนี้ไม่มีอะไรปกปิด
เมื่อถามว่า การใช้คำสั่ง คสช.ฉบับใหม่ ตามมาตรา 44 ในมุมมองของต่างชาติจะดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อต้องช่วยกันอธิบาย ตนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเดือดร้อนกันตรงไหน วันนี้ทุกคนรู้ว่าปัญหาของประเทศคือตรงไหน จะปล่อยให้ประเทศล้มละลายเสียหาย เรื่องนี้ตนเป็นคนรับผิดชอบอยู่แล้ว
“ลูกเมียก็เดือดร้อน แต่ทำไมถึงยังต้องทำ แล้วทำไมสื่อไม่ไปโจมตีรัฐบาลที่แล้วว่าทำอะไรกันมาบ้าง ทำไมไม่เขียนว่าไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลชุดที่แล้วถึงไม่แก้ปัญหา ทั้งเรื่องการบินพลเรือน มัวแต่มาโจมตีผมอยู่ฝ่ายเดียว ยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดวันนี้ไม่ได้ซีเรียส ยังยิ้มได้”นายกฯกล่าว
วอนแจงสื่อเทศเร่งทำปชต.สมบูรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงข่าว นายกฯเดินเข้าไปอธิบายประชาธิปไตยไทยต่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเอบีซีอีกครั้ง โดยระบุว่า ขอให้นักข่าวไทยที่มากับนักข่าวต่างประเทศช่วยอธิบายเรื่องนี้ด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 สิ่งที่ตนทำวันนี้กำลังลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ความเข้มแข็งภาคเศรษฐกิจ ปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขทำทั้งหมด ถ้าปล่อยให้เสรีภาพร้อยเปอร์เซนต์เหมือนปกติ ก็จะวนกลับมาใหม่ ถ้าตนไม่มีอะไรมาเสริม จะมีม็อบมาหน้าทำเนียบฯ แล้วตนจะทำงานได้หรือไม่ บางอย่างต้องเร่งด่วน ซึ่งต้องรอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกกฎหมาย ตนก็ร่างเป็นคำสั่งออกมาดำเนินการก่อน เช่น การแก้ปัญหาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่กรมการบินพลเรือนไทยมาตรฐานต่ำกว่าเกณฑ์ จึงต้องออกคำสั่งมาแก้ปัญหา เพราะที่ผ่านมาทุกอย่างไม่เคยแก้
นายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันว่า วันนี้ตนให้ความเป็นเสรี เว้นคนทำผิดที่ต้องดำเนินการ การสอบสวนคดีต่างๆ ไม่ใช่เอาไปซ้อม ที่ต้องควบคุมตัวเพื่อจะสอบสวน วันนี้ต้องเดินไปเรื่อยๆเป็นขั้นๆ เรากำลังทำประชาธิปไตยไทยให้สมบูรณ์ เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ แต่ของเรายังไปถึงตรงนั้นไม่ได้ ยังมีปัญหาซับซ้อนอยู่ ประชาธิปไตยของตนที่กำลังดำเนินการคือ คนมีการศึกษาเข้มแข็ง ความขัดแย้งไม่มี นักการเมืองมีประสิทธิภาพ
ปรับรูปแบบรายการคืนความสุขฯ
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวด้วยว่า ต่อจากนี้ จะปรับรูปแบบการนำเสนอรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่ออกอากาศทุกคืนวันศุกร์ใหม่ โดยตนยังคงพูดเหมือนเดิม แต่ลดเวลาพูดให้สั้นลง โดยจะเป็นคนกล่าวแนะนำหัวข้อ ก่อนจะให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ หมุนเวียนมาออกอากาศชี้แจงการทำงานเพื่อให้ประชาชนรับทราบผลงานประมาณ 20-30 นาที
จัดห้องเลคเชอร์สื่อทำเนียบฯ
นอกจากนี้ ตนยังสั่งการไปยังรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนระหว่างรอประชุม ครม.ทุกวันอังคาร ให้รับฟังคำชี้แจงการทำงานของรัฐบาลจากตัวแทนรัฐบาลว่าแก้ปัญหาบ้านเมืองคืบหน้าถึงไหน โดยจะจดชื่อนักข่าวทุกคน เหมือนก่อนเข้าห้องเรียน จะเริ่มในการประชุมครม.วันที่ 7 เมษายน เป็นการชี้แจงทำความเข้าใจระหว่างรัฐบาลกับสื่อ เรื่องข้อมูลต่างๆให้เข้าใจถูกต้องครบถ้วน ป้องกันข้อผิดพลาด อยากให้ฟังคนอื่นชี้แจงบ้าง ตนพูดคนเดียวมานานแล้ว
“ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อคุมอำนาจสื่อ เพราะรู้ว่าคุมไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งใหญ่จะตาย และไม่ใช่การละลายพฤติกรรมระหว่างรัฐกับสื่อ อายุขนาดนี้คงละลายกันไม่ได้แล้ว แต่ขอเพียงให้เข้าใจรัฐบาลเท่านั้นเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เล็งใช้แก้ปัญหายางทั้งระบบ
นายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบด้วยว่า กำลังหารือกันว่าจะใช้มาตรา 44 เข้าไปแก้ปัญหาได้หรือไม่ เพราะสนช.ไม่สามารถออกกฎหมายได้ทัน ส่วนตัวมองว่า การใช้มาตรา 44 ทำให้ทำงานได้เยอะกว่าเดิม เพราะกฎอัยการศึกใช้ในความมั่นคงเป็นหลัก
“วิษณุ”แจงม.44ย้ำใช้สร้างสรรค์
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้รายละเอียดเพิ่มเติมของการใช้มาตรา 44 ที่รัฐบาลเตรียมนำมาประกาศใช้ว่า เป็นการกำหนดกรอบกว้างๆ ใช้ในทางสร้างสรรค์อย่างที่นายกฯยืนยัน โดยจะระบุรายละเอียดการใช้เป็นข้อๆเลยว่า นำไปใช้เพื่อความปรองดอง รักษาความสงบเรียบร้อย แก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม เร่งรัดการปฏิรูป ระงับยับยั้ง ป้องกันปราบปราม ซึ่งตรงนี้เป็นอันเดียวที่ใช้ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
วอนอย่าระแวงยันเบากว่าอัยการศึก
“เมื่อคนไม่ค่อยวางใจกฎอัยการศึก นำมาสู่การคิดทบทวนแล้ว อย่าได้ระแวงต่อไปเลยว่า จะกำหนดมาตราการใหม่ที่แย่ไปกว่ากฎอัยการศึกมาใช้ เป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น จะมีมาตรการรองรับที่เบากว่าคือ มาตรการตามพ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กับกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนที่ไม่นำมาใช้ ต้องใช้มาตรา44 เพราะ มาตรการใดที่จะมีขึ้นมารองรับการเลิกกฎอัยการศึก ก็อยู่ในระดับเดียวกับกฎหมาย 2 ฉบับนี้ ต่างกันที่มีการระบุถึงการเยียวยา บรรเทาความเสียหายที่เกิดมาแล้วผนวกเข้าไปด้วยในคำสั่ง ไม่ต้องรอเสนอกฎหมายเข้า สนช.”นายวิษณุกล่าว และยืนยันไม่เป็นการหนีเสือปะจระเข้ แต่จะเจอตัวอื่นหรือไม่ ไม่ทราบ ไม่ใช่เสือไม่ใช่จระเข้เลย
ใช้ม.44แก้ปมสลากแพง
ส่วนพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงหลังประชุมครม.ตอนหนึ่งว่า ในที่ประชุมนายกฯขอทราบความคืบหน้าจาก สนช. เรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ในขั้นตอนใด และมีแนวโน้มจะผ่านการพิจารณาจากสนช.ทันเดือนมิถุนายน ซึ่งจะครบกำหนดที่จะต้องจัดสรรโควต้าสลากฯ ใหม่หรือไม่ ทั้งนี้ ถ้าแนวโน้มไม่ทัน นายกฯในฐานะหัวหน้า คสช.พร้อมใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ปัญหาจำหน่ายสลากฯเกินราคา ยืนยันใช้อย่างสร้างสรรค์และมีเหตุผลรองรับเพียงพอ
มทภ.1พร้อมบังคับใช้กม.ใหม่
พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 (มทภ.1)ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)กล่าวว่า กกล.รส.มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ถ้ามีกฎหมายใดให้บังคับใช้ก็ต้องยึดหลักตาม และยึดหลักสิทธิมนุษยชน ตนยืนยันว่าการดำเนินต่างๆ มีจุดมุ่งหมายให้ประเทศสงบสุข ทั้งนี้ เรายังประเมินสถานการณ์ทุกวัน รับทราบทุกการเคลื่อนไหว เน้นพูดคุยสร้างความเข้าใจกับทุกกลุ่มเป็นหลัก ให้เห็นแก่บ้านเมือง เราหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจ ขณะนี้ยังไม่มีอะไรหนักใจ พร้อมกับการแก้ปัญหาที่สะสมมานาน ซึ่งต้องใช้เวลา แต่พยายามทำให้เร็วที่สุด
ยันไม่ใช่ความรุนแรงเน้นพูดคุย
สำหรับข้อสงสัยมาตรา 44 รุนแรงเกินไป แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า การดำเนินการใดๆได้เน้นย้ำผู้ใต้บังคับบัญชาว่า ทุกคนเป็นคนไทยไม่ใช้ความรุนแรงที่นอกเหนือกฎหมาย ส่วนที่มีการแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียนั้น ตนเน้นสร้างความเข้าใจ โดยการพูดคุยเป็นหลักว่าสื่อออนไลน์หลายจำพวกเวลาส่งกันจะไม่มีการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง ทำให้สังคมสับสน เราก็ต้องเข้าไปตรวจสอบหาต้นตอว่าใครเป็นคนโพสต์ข้อมูลแล้วก็จะพูดคุยทำความเข้าใจ ส่วนการเรียกบุคคลเข้ามาปรับทัศนะคติจะไม่มีแล้ว แต่ใช้การพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจแทน โดยใช้รูปแบบการพูดคุยสองแนวทางคือ ไปหาเขาบ้าง กับเขามาหาเราบ้าง ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ไปที่บ้าน เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว เนื่องจากเป็นที่อยู่เหนือนอกกฎหมาย และเป็นกระแสสังคมที่อ้างไปเอง