นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีการแสวงหาข้อเท็จจริงสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แต่งตั้งเครือญาติใกล้ชิดเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัวว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริง โดยหลังจากนี้จะขอเอกสารคำสั่งการแต่งตั้งจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำมาตรวจสอบดูว่าบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าว มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบเป็นราย ๆ ไป ถ้าผิดก็จะผิดเป็นรายบุคคล ไม่ได้รวมทั้งหมด
ร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณี สปช. ด้วยนั้น ป.ป.ช. ก็จะนำเรื่องดังกล่าวมารวมกับกรณีร้องเรียน สนช. ก่อนหน้านี้ด้วย เพราะมีลักษณะคล้ายกัน อย่างไรก็ดีต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่า เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ เนื่องจากหากร้องเรียนในกรณีผิดจริยธรรมอย่างเดียว ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจตรวจสอบและกฎหมายรองรับ หากพบว่าการตั้งบุคคลดังกล่าวขัดต่อคุณสมบัติ ก็เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน และมีมูลเหตุในการทุจริต แต่หากมีการตั้งโดยถูกต้อง ก็ต้องไปดูว่ามีพฤติการณ์ที่จะไปแสวงหาผลประโยชน์หรือไม่ หากคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่าง ก็ถือว่าไม่มีความผิด
นายสรรเสริญ กล่าวว่า เรื่องนี้แม้ว่า สนช. และ สปช. จะให้เครือญาติพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ ป.ป.ช. ก็ต้องตรวจสอบ เพราะมีการตั้งและมีการรับเงินเดือนไปแล้ว แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่า มีคุณสมบัติ และได้ทำหน้าที่จริง ก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง