นายกฯย้ำวันนี้ประชาธิปไตยเกือบ100%

นายกฯย้ำวันนี้ประชาธิปไตยเกือบ100%

'นายกฯ' ย้ำ วันนี้ประชาธิปไตยเกือบ100% ขอคนไทยมารวมกันใหม่ ลั่น ใครจะรบไปก็รบไป ไม่เอาด้วย แต่คนดีต้องปลอดภัย ชี้ อย่าเป็นประชาธิปไตยที่เข้าข้างตัวเอง บ่น แค่เด็ดดอกไม้ก็ไปตีความเรื่องการเมือง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 มี.ค. ที่ห้องเพลนนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันการค้าของ ประเทศไทย ในงานประชุมสามัญประจำปี 2558 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนเข้ามาเพื่อขจัดความขัดแย้ง และเดินหน้าประเทศ คิดว่า เมื่อไหร่ความขัดแย้งจะจบเสียที วันนี้พอเริ่มเดินหน้าความขัดแย้งก็รออยู่อีกแล้ว ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง ส่วนเรื่องกฎหมายพิเศษย้ำว่าไม่มีใครเดือดร้อน แต่ถ้าไม่มีจะยิ่งกว่านี้อีก ซึ่งหากมีการทะเลาะกันตกลงกันไม่ได้ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้อยากให้สื่อทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยว่าที่เศรษฐกิจตกต่ำไม่ได้เป็น

เพราะรัฐบาล แต่เป็นเพราะเศรษฐกิจโลกด้วย ตนไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่ขอความเป็นธรรมให้รัฐบาลด้วย วันนี้เงินในประเทศที่หายไปเป็นจำนวนมาก คือ เงินในธุรกิจสีเทา เพราะรัฐบาลเข้ามาจัดระเบียบ ซึ่งวันนี้เราจะต้องเร่งทำงาน ที่ผ่านมารัฐบาลมีหลายพรรคการเมือง แต่วันนี้มีพรรคเดียว คือ พรรคตน การทำงานนโยบายต่างๆ ยืนยันได้ว่า ไม่มีผลประโยชน์ แต่ก็มีข้อดีข้อเสียบ้างเป็นธรรมดา

"บ้านเรามีปัญหามากเพราะเป็นประชาธิปไตย แต่เรายังไม่เหมือนประเทศอื่นที่รัฐบาลมีอำนาจเด็ดขาดมีการจำกัดเสรีภาพ มากกว่านี้ แม้แต่สื่อเองก็ไม่สามารถมาเขียนวิจารณ์อะไรได้แบบนี้ แต่ยืนยันว่า วันนี้เรามีความเป็นประชาธิปไตยถึง 99.99 เปอร์เซนต์ เพราะผมไม่ได้ไปล้มล้างประชาธิปไตยอะไรทั้งสิ้น ขอแค่อย่ามาต่อต้านกัน ตอนนี้ยังให้ไม่ได้เลย ถ้าควบคุมอำนาจเด็ดขาดจริง จับติดคุก ยิงเป้า ก็จบแล้ว คงไม่ต้องมาฝันค้างกลางคืนแบบนี้ วันนี้คนรักผมก็พอมี แต่คนเกลียดผมก็เยอะ แต่ก็ขอให้รู้ไว้ว่า ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อประเทศชาติ บางคนที่ผมเรียกมาช่วยทำงานตามจริงต้องเกษียณไปนอนอยู่บ้านหรือไปบวชแล้ว แต่ต้องสั่งห้ามก่อน ให้มาช่วยงาน และขออย่านำสถานการณ์ ขณะนี้ไปเปรียบเทียบกับครั้งก่อน ๆ เพราะผมเข้ามาท่ามกลางความขัดแย้ง ประเทศไทยไม่เคยแตกแยกแบบนี้มาก่อน ขอให้มารวมกันเถอะ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องธุรกิจรายย่อยนั้นต้องเดินตามนโยบายการเมือง แต่เราไม่ใช่นักการเมือง

กลุ่มที่ทำธุรกิจรายย่อยนอกระบบจะมาขอให้รัฐบาลนิรโทษภาษี ซึ่งผมเห็นว่าไม่ถูกต้อง หากจะพูดถึงนิรโทษภาษีต้องมาขึ้นทะเบียนก่อน ถ้าไม่ขึ้นทะเบียนจะปรับเป็น 2 เท่า หากขึ้นทะเบียนแล้วค่อยมาคุยกันเรื่องลดภาษี และเวลานี้อะไรก็จะพูดถึงนิรโทษ จะไปเป็นนิรโทษกรรมปรองดอง ตนว่ามันคนละเรื่องกัน นิรโทษกรรมกับปรองดองมันคนละเรื่องกัน แต่ก็เอาเถอะใครจะรบกันก็รบไป ใครจะไปฆ่ากันตนไม่เอาด้วย แต่ตนคิดว่าคนดีต้องปลอดภัย การเป็นประชาธิปไตยวันนี้ต้องอย่าเป็นประชาธิปไตยที่เข้าข้างตัวเอง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการบริหารประเทศที่สื่อเขียนว่า จะมีการปรับย้ายคนนั้นคนนี้ สั่งงาน แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีคนเดียว

ก็เพราะเขาอยู่ด้านความมั่นคงจึงต้องดูทุกเรื่อง ประเทศชาติสิ่งสำคัญคือความมั่นคง ถ้าเรามีความมั่นคงแล้ว ทุกอย่างก็จะดีตามมา ทั้งเศรษฐกิจและสังคม ส่วนม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ก็แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เดินหน้ากันไป วันนี้ก็ดูอยู่ รู้หมดว่าฝั่งนั้นฝั่งนี้ทะเลาะกัน ถ้าจะให้ไปย้ายคนนั้นคนนี้แล้วย้ายไม่ได้ ย้ายแค่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็ถูกด่า ถ้าย้ายใครไม่ได้ สงสัยต้องย้ายตัวเองแล้วกัน รำคาญแล้ว ยืนยันว่า ตนเข้ามาไม่มีเรื่องของการทุจริต ไม่เคยเรียกร้อง ไม่คิดไปเอาของใคร ผมไม่เอาคนอื่นก็ไม่เอา รัฐมนตรีที่เข้ามาอายุก็มากแล้ว ไม่มีใครอยากได้อะไร ที่เข้ามาก็ทำเพื่อประเทศชาติ แล้วทุกคนบอกว่าจะเอาแต่คืนความสุข จะเอาแต่ความสุขอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ มันต้องมีทุกข์บ้าง ก่อนสุขต้องทุกข์ก่อน ทุกการเปลี่ยนแปลงทุกประเทศต้องได้รับผลกระทบบ้าง ผมต้องการคืนความสุขให้ประเทศดีขึ้น

ทั้งนี้ในตอนท้ายพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่เด็ดดอกพุดแล้วมีการตีความไปทางการเมืองว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวว่า "แค่เด็ดดอกไม้ แล้วสั่งให้ลูกน้องดูแลต้นไม้เท่านั้น แค่นี้ก็ไปตีความหมายกัน ไปตีความถึงเรื่องวางแผนรักษาอำนาจ ยืนยันว่าไม่เคยคิดเลย".


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์