'วัชระ' โต้ 'บิ๊กป้อม' ก่อนนิรโทษฯ สั่งนปช.คืนปืนทหารเหตุการณ์ปี 53 ก่อน พร้อมซัด'บวรศักดิ์'ร่างรธน.เนื้อหาไม่เป็นปชต.เตือน'บิ๊กตู่'ทบทวนร่าง รธน.ชี้ทำลายระบบการเมือง-สืบทอดอำนาจ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 22 มี.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
แถลงถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขานรับข้อเสนอการนิรโทษกรรมว่าตนในฐานะอดีตประธานคณะอนุกรรมาธิการการ พัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน สภาผู้แทนราษฎรได้มีการค้นหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชายชุดดำในปี 2553 โดยมี การสรุปผลการดำเนินงานว่า “กลุ่มนปช.ยังไม่ได้คืนอาวุธสงครามที่ยึดจากทหารในเหตุการณ์ชุดที่ผ่านมาได้ มีการพิจารณาศึกษาเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชายชุดดำในเหตุการณ์การชุมนุม ทางการเมืองเดือนเม.ย. 53 โดยมีการสรุปผลการดำเนินการตามเอกสารของอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งตามเอกสารระบุว่า พ.อ.สรรเสริญ แก้วกําเนิด อดีตโฆษกกองทัพบก ชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการฯยืนยันว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.) ยังไม่คืนอาวุธสงครามที่ได้ยึดไปจากทหารในเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53ดังนี้ คือ อาวุธปืนทราโว่จำนวน 25 กระบอก เอ็ม 16 จำนวน 4 กระบอก อาวุธปืนลูกซองจำนวน 39 และกระสุนปืนกับซองกระสุนอีกจำนวนมาก และพ.อ.สรรเสริญ ยังระบุอีกว่า จากภาพรวมการชุมนุมของนปช.มีชายชุดดำอยู่จริงดังนั้นหากพล.อ.ประวิตร จะนิรโทษกรรมให้กับกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ควรเรียกร้องให้กลุ่มนปช.นำอาวุธปืนสงครามเหล่านี้มาคืนทางราชการเสียก่อน
นายวัชระ ยังได้แถลงคัดค้านการร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานฯ ว่า
การกำหนดหลักการใหม่ในการร่างรัฐธรรมนูญภายใต้กระบอกปืนมีเนื้อหาไม่เป็น ประชาธิปไตย และไม่สะท้อนถึงการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งการร่างรัฐธรรมนูญเช่นนี้จะไม่มีทางผ่านได้เลยหากผู้มีอำนาจไม่สนับสนุน นอกจากนี้ การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ยังอยู่บนพื้นฐานที่คิดว่านักการเมืองเลวทั้งหมด ถือว่าไม่ยุติธรรมจึงเชื่อว่านายบวรศักดิ์ อาจทำให้พล.อ.ประยุทธ์ เสียคนในที่สุด
นายวัชระ กล่าวต่อว่า ตนขอคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญนี้ใน10 ประเด็น ดังนี้ คือ 1. ส.ส.เขตเหลือ 250 คน
ไม่สะท้อนความเป็นจริงกับการที่ส.ส.จะดูแลประชาชนจำนวนมาก 2. ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 200 คน ให้มีการเลือกแบบโอเพ่นลิสต์เป็นการสร้างความแตกแยกในหมู่นักการ เมือง 3. นายกรัฐมนตรีมาจากคนนอก 4.วุฒิสภา 200 คนมาจากการลากตั้ง 5. วุฒิสภามีอำนาจล้นฟ้าตรวจสอบประวัติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ก่อนเข้าดำรงตำแหน่งได้ 6.ถ้ามีการลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ นายกฯมีอำนาจยุบสภาฯได้ 7.ให้มีคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งแทนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรงนี้เปิดโอกาสให้อำนาจฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงได้
8.ยุบ ผู้ตรวจการแผ่นดินรวมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) 9 .มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่กำกับดูรัฐบาล อีกชั้นหนึ่ง และ 10. ให้มีสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตนขอตั้งชื่อใหม่ว่า “สภาขับเคลื่อนรถถังเพื่อการปฏิรูป”การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้สะท้อนให้เห็น ว่านายบวรศักดิ์เขียนดีกว่าใบสั่งที่สั่งมาอีก จึงขอร้องพล.อ.ประยุทธ์ อย่าเห็นคล้อยตามสิ่งที่นักวิชาการกลุ่มนี้เสนอ เพราะเรามีบทเรียนทางประวัติศาสตร์มาแล้วถึงสองครั้งคือ 14 ตุลา 16 และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 35
“นายบวรศักดิ์ กำลังจะพาประเทศชาติไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดในประเทศไทยถ้าประชาชนออก มาคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญจะเกิดความรุนแรง และท้ายที่สุดพล.อ.ประยุทธ์ จะกลายเป็นนายกฯ มือเปื้อนเลือด หากไม่ทบทวนร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมไม่ต้องการเห็นเช่นนั้น จึงเรียกร้องให้มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หากประชาชนไม่รับร่าง รัฐธรรมนูญดังกล่าวให้นำรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งมาใช้โดยเร็วอย่าสืบทอดอำนาจ เพราะเป็นเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงที่สุด” นายวัชระ กล่าว.