“เต้น” ไม่หวั่น กปปส.แจ้งความจับ บงการ กี้ ล้มประชุมอาเซียน ลั่นสู้ตามกระบวนการ
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวในรายการ “เข้าใจตรงกันนะ” ทาง PEACE TV กรณีกปปส.ชลบุรีแจ้งความจับโดยระบุว่าเป็นผู้บงการจ้างวานนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรองให้นำกลุ่มนปช.กว่า 1,000 คนบุกล้มการประชุมผู้นำอาเซียนที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยาเมื่อปี 2552 โดยมีหลักฐานเป็นคำปราศรัยของนายณัฐวุฒิและนายอริสมันต์ในการจ้างวานให้ล้ม การประชุมด้วยเงิน 1.8 แสนบาทว่า เคยได้ยินแต่เขาจ้างล้มบอล ล้มมวย เพิ่งได้ยินว่ามีการสั่งล้มประชุม ซึ่งไม่ใช่ประชุมธรรมดาแต่เป็นการประชุมระดับผู้นำประเทศ ไม่ทราบว่าคนเดินสายจะไปแจ้งความที่ไหนอีก อาจไปแจ้งที่ลูกเสือชาวบ้าน ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนกังวลเพราะสถานการณ์ขณะนี้ ขยับมาใกล้ตัวมากขึ้น ได้การข่าวมาว่ามีการล็อกเป้ากันอยู่ ต้องเอาตนให้ได้ และหาสารพัดเรื่องเข้ามาใส่ ทำเป็นขบวนการ รวมถึงบางสื่อที่ระบุตนตายแน่
“ผม ไม่วิตกกังวลกับข้อกฎหมายรวมถึงสถานการณ์นี้ พร้อมต่อสู้ในทุกถ้อยกระทงความอยู่แล้ว ใครจะมาสืบเอาเรื่องก็เป็นสิทธิของท่าน และเป็นสิทธิของผมที่จะต่อสู้ ก็ดีเหมือนกันที่มีการหยิบยกขึ้นมา จะได้รู้ไปเลยว่าถ้ามีการใช้จ้างวานจริงจะได้รู้เลยว่าเป็นคนกลุ่มไหน ระหว่างกลุ่มเสื้อแดงกับบุคคลที่มีอำนาจมีอิทธิพลในฝ่ายรัฐในเวลานั้น ตอนนั้นคนเสื้อแดงมีเจตนาเดียวคือไปยื่นหนังสือแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่ยอมรับ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เนื่องจากมีที่มาไม่ชอบธรรมตามกระบวนการประชาธิปไตย ไม่ต้องอ้างแบบที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าได้รับการโหวตชนะในสภาเหนือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นายอภิสิทธิ์จึงเป็นนายกฯ เหมือนนายสมัคร นายสมชาย มันทำเป็นขวนการเดียวกันตั้งแต่ขับไล่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ล้มนายสมัคร ล้มนายสมชาย จนได้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ไปตกลงกับพรรคร่วมในค่ายทหาร อันนั้นแหละตัวประเด็น ที่ประชาชนเห็นและรับไม่ได้”นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ไปยื่นหนังสือเสร็จตั้งใจจะกลับ ไม่มีปัญหาอะไร
แต่ขากลับกับมีผู้มีอำนาจไปจัดตั้งแก๊งค์สวมเสื้อสีน้ำเงิน พวกหัว คลุมตา ถือมีด ถือปืน มีอาวุธสารพัดชนิด แล้วยืนปนอยู่กับตำรวจทหาร ปนแบบคนรู้จักกัน นั่งรถคันเดียวกัน มีภาพอยู่ ฉะนั้นหากต้องต่อสู้ในศาลจะได้เอาให้ชัดเลยว่าใครใช้ จ้างวานใคร ใครออกคำสั่งคนพวกนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้คัดค้านจับกุมกลุ่มกองกำลังใส่เสื้อสีน้ำเงิน ทำให้เกิดคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกิดขึ้นในรัฐบาลอภิสิทธิ์เพื่อตรวจ สอบว่าเหตุการณ์ชุมนุมตอนปี 52 เกิดอะไรขึ้นบ้าง เชิญคู่กรณีมาให้ข้อมูล แต่นายอภิสิทธิ์ก็เอาข้อมูลรายงานฉบับนี้เก็บไว้ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะเปิดเผยแล้วปฏิเสธไม่ได้ว่าขบวนการเสื้อน้ำเงินมีอยู่จริง และยืนอยู่กับฝ่ายรัฐอย่างแท้จริง
“ประชาชนไม่ต้องกังวล ขอขอบคุณพี่น้องที่ให้กำลังใจ ผมสบายๆ เป็นของผมแบบนี้ ถ้าเกิดมาแล้วต้องวิตกหวาดกลัวต่อใคร ผมไม่มายืนตรงนี้ ถ้าสถานการณ์ยิ่งคับขัน ยิ่งเข้ามาใกล้ๆกับจุดยืนของเรา เรายิ่งต้องนิ่ง ต้องมั่นคง ต้องหนักแน่น และประเมินสถานการณ์รอบตัว อ่านเกมให้ขาด กำหนดยุทธศาสตร์ให้ชัด” นายณัฐวุฒิ กล่าว