บิ๊กโด่งเดือด เอาผิดคนกุข่าวทหารซ้อมมือบึ้ม

"บิ๊กโด่ง"สั่ง ทบ.ฟ้องคนกุข่าวทหารซ้อมผู้ต้องหาคดีปาบึ้มศาลอาญาฯ ซัดบิดเบือนข้อเท็จจริง ยันทหารไม่ทำร้ายใคร พร้อมให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เร่งประสานขอตัว "อเนก ซานฟราน"ดำเนินคดีในไทย ชี้ข้อมูลชัดเกี่ยวพันเหตุรุนแรง

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.)

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกล่าวหาว่าทหารทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดศาล อาญา ว่า ขอยืนยันว่าการใช้กฎหมายพิเศษนั้นทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ให้นโยบายว่าสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับความร้ายแรง จะสามารถใช้กฎหมายพิเศษได้ แต่จะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และการดำเนินการเป็นไปตามกรอบ ไม่ได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน เจ้าหน้าที่เข้าใจถึงอำนาจขอบเขตการดำเนินการดี ที่จะไม่ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา เราจะไม่ทำเด็ดขาด พร้อมให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ สำหรับผู้ที่ไปบิดเบือนว่าถูกทำร้าย ทางกองทัพบกมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งที่ไม่อยากดำเนินการ เพราะกองทัพไม่ได้เห็นใครเป็นศัตรู แต่ใครกระทำผิดต้องถูกสอบสวน และถูกลงโทษ เพราะมีการกล่าวล่วงกองทัพบก ในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง

พล.อ.อุดมเดช กล่าวอีกว่า สำหรับการบังคับใช้กฎหมาย กองทัพบกมีความจำเป็นต้องดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย

เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ คสช. ในการที่จะทำให้พื้นที่ต่างๆ มีความสงบเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ไม่ประสงค์ดีที่จะก่อเหตุวางระเบิดในพื้นที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน ท่องเที่ยว หากมีประชาชนได้รับผลกระทบจนทำให้บาดเจ็บและสูญเสีย ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เรื่องแบบนี้ถ้าไม่โดนกับตัว หรือเป็นญาติพี่น้องใคร ก็คงจะรู้ ดังนั้นก็ขอให้มาร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

เมื่อถามถึงแนวโน้มที่จะนำตัวนายมนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน ที่หลบหนีในต่างประเทศกลับมาดำเนินคดี

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีการซัดทอด และมีข้อมูลชัดเจนว่าเกี่ยวพันกับความรุนแรงที่ผ่านมา ขณะนี้รัฐบาล และ คสช. มีความพยายามที่จะนำผู้กระทำความผิดที่หลบหนีไปต่างประเทศมาดำเนินคดีตาม กฎหมาย ทั้งในส่วนของกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ ก็เร่งดำเนินการอยู่

สำหรับความเป็นไปได้ในการผ่อนปรนกฎอัยการศึกเพื่อความปรองดองนั้น พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า

นายกฯ ได้สั่งการแล้วว่าการใช้กฎหมายพิเศษดังกล่าว ให้ใช้เฉพาะกรณีที่เกิดความรุนแรงเท่านั้น หากสถานการณ์ไม่รุนแรง เราก็อยากใช้กฎหมายปกติ ดังนั้นอยากขอความร่วมมือกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นต่าง หากเราไม่ใช้กฎหมายพิเศษ ก็อย่าออกมาเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวาย หากต้องการแสดงความคิดเห็น ทางรัฐบาลได้เปิดพื้นที่ให้หลายช่องทาง เพื่อช่วยกันสร้างสถานการณ์ให้เกิดความสงบสุขเรียบร้อย เพื่อนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตยตามโรดแม็พที่วางไว้ ซึ่งคาดว่าในช่วงเดือน ก.ย.นี้ กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญน่าจะเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็จะเข้าสู่ระบบการเลือกตั้งตามขั้นตอนที่ระบุไว้ อีกทั้งนายกฯ ก็เน้นย้ำเสมอว่าต้องเป็นไปตามนั้น.