นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานนปช. กล่าวผ่านรายการมองไกล ทางพีซทีวี ถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้าจับกุมอาวุธและสัญลักษณ์ต่างๆที่เชื่อมโยงมายังกลุ่มคนเสื้อแดงได้ภายในวัดป่าสีวลี จ.สระบุรี ว่า ประหลาดใจมาก วัดนี้ที่มีพระรูปเดียว การไปจับแล้วนำไปรวมกับอาวุธ ธง สัญลักษณ์อะไรต่างๆของนปช. ประมวลเหตุการณ์ทั้งสยามพารากอน ศาลอาญา แล้วก็มาวัดป่าสีวลี จะนำไปสู่อะไร แต่สิ่งหนึ่งความอดทนระหว่างกันเป็นเรื่องสำคัญ นายกฯประกาศเป็นประชาธิปไตยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นประชาธิปไตยมากกว่ารัฐบาลประชาธิปไตย ถ้าฝ่ายตนสวดมนต์ก็ยังกระทบกระเทือน ดังนั้นขอสื่อสารไปยังคนที่ติดตามเรื่องราวต่างๆ อะไรที่เป็นความขุ่นข้องหมองใจระหว่างกัน ควรปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา บอกมาจะให้ไปคุยที่ไหน เพราะเราต้องการรักษาบรรยากาศในบ้านเมืองเหมือนกัน
นายจตุพรกล่าวว่า ได้เดินทางไปกสทช. กับพรรคพวกเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับทีวีคนเสื้อแดง การปิดทีวีเป็นการทำร้ายหัวใจเหมือนกัน ทำร้ายหัวใจฝ่ายเดียว ไม่ใช่คนไม่สู้คน แต่เราต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ไม่บอบช้ำกว่านี้ ทีวีบางช่องใช้ถ้อยคำยิ่งกว่าทีวีเสื้อแดง ไม่เห็นมีปัญหา แต่ก็ไม่ทราบที่ทำ ต้องการบีบบังคับให้ทำอะไร เข้าใจการทำหน้าที่กสทช. เราก็เปิดรายการฟังความรอบด้าน เชิญแต่ละสีมาทั้งหมด แต่เชิญมาทั้งวันไม่ได้ เพราะหาคนยาก แต่พวกเราพยายามเปิดประตู คนในแม่น้ำ5สาย พวกเป่านกหวีดก็เชิญ เพื่อฟังความรอบด้านว่าเราไม่ได้ฟังเฉพาะพวกเราเท่านั้น แต่ถ้าความเห็นต่างซีกเดียว ไม่ได้ จากเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ถามว่า ปัญหาปัจจุบันของชาติที่หนักอยู่แล้ว แต่ละฝ่ายก็รู้ มีทุกข์อันแสนสาหัส ทำไมไม่สร้างบรรยากาศไม่ให้เลวร้าย ปิดโทรทัศน์เป็นเรื่องเล็ก แต่คนนำประเทศกลับเหมือนเดิม ไม่ใช่พวกผม การที่สังคมจะอยู่ด้วยกันได้ แต่ละฝ่ายควรจะมีที่ยืน เริ่มต้นปฏิบัติเหมือนกัน อยู่ไปอยู่มาจะเลือกปฏิบัติกันอีกแล้วหรือ ปัญหาไม่ใช่สีเสื้อ แต่มันอยู่ที่แก่น
นายจตุพรกล่าวว่า หวังว่าเสียงวันนี้จะไปถึงหูผู้นำรัฐบาล เราจะอยู่ท่ามกลางปัญหาหรือต้องการแก้ไขปัญหา แสดงให้เห็นว่าโลกเป็นประชาธิปไตย
นายจตุพร กล่าวอีกว่า การแสดงความเห็นโดยไม่เป็นปัญหา เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทำไมต้องไปบีบบังคับให้คนไม่มีที่ยืน หรือบีบบังคับให้จนตรอก เราเป็นคนไทย ไม่มีใครกลัวใคร เคยประกาศเส้นทางนี้ไม่ตายก็ติดคุก ถ้าเรารักชาติบ้านเมืองมากกว่ารักตัวเอง แต่ละฝ่ายควรเปิดใจให้กว้าง คิดว่าชาติบ้านเมืองเป็นของเรา อะไรที่เกินเลย บีบคั้นหัวใจอย่าทำ ปัญหาต่างๆก็เคยเห็นมาแล้ว ที่เรียกกันว่า น้ำผึ้งหยดเดียว จากไม่มีอะไรก็กลายเป็นปัญหา ส่วนจะตัดสินใจอะไร จะไปร้องขออะไรไม่ได้ ในฐานะทำเป็นหัวแถวของคนซีกนี้ พวกผมเป็นคนมีเกียรติ ที่ต้องการสื่อสารอย่างมีเหตุผล ไม่ต้องการให้ใครมาซ้ำเติม มีเรื่องกันง่าย ต่อสู้กันไม่ยาก แต่สภาพการณ์ประเทศขนาดนี้ ต่างเห็นกันแล้วไม่ใช่หรือ ถามประชาชนว่ารู้สึกอย่างไร สิ่งที่เราได้ประจักษ์ มีความรู้สึก การแสดงความเห็นใดๆก็ตาม ได้บอกหมู่มิตรเสมอ มาจัดรายการก็ต้องระมัดระวัง อย่าสอพลอผู้มีอำนาจ อย่าทรยศประชาชน อย่างที่บอก พวกผมโชคร้าย สวดมนต์ก็ยังไม่น่าฟัง เริ่มต้นเสมอกัน แต่จะปฏิบัติกันอีกแบบ ปัญหาที่พวกท่านแก้กันก็หนักอยู่แล้ว อย่ามาเพิ่มปัญหาอีกเลย
นายจตุพรกล่าวว่า เราต้องมีสติ สมาธิ เราผ่านอะไรมามากมาย ไม่มีใครไม่เคยท้อ ไม่เคยล้ม แต่ล้มแล้วจะลุกขึ้นมายืนเร็วสุดเมื่อใด ขบวนการประชาชนล้มมาไม่รู้กี่รอบ แต่ก็ลุกขึ้นมายืนได้ เหตุการณ์วันข้างหน้าอาจหนักหนาแสนสาหัส แต่ที่ผ่านมา ถ้าเราทำใจปกติ ใช้สมอง ความรอบครอบ เชื่อว่าจะผ่านความเลวร้ายไปได้ บางฝ่ายที่ต้องการเห็นคือ เราขาดสติแล้วทำให้ขาดความรอบครอบ พวกที่คิดจะหักด้าพร้าด้วยเข่า บีบให้อีกฝ่ายไม่มีที่ยืน ภายใต้คำว่าปรองดอง อย่าลืมคนไทยรักสงบ แต่รบไม่ขลาด ไม่มีใครกลัวใคร ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่มีอะไรซับซ้อน ยืนหยัดในแนวทางต่อสู้ ไม่ใช่หน้าอย่างหลังอย่าง ใช่คือใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่ ต้องการให้บ้านเมืองสงบ ไม่ออกไปขับเคลื่อนก็ไม่ขับเคลื่อน ปากกับใจตรงกัน เราต่างฝ่ายต้องเปิดใจให้กว้าง อย่าบีบให้คนไทยอย่างผมไม่มีที่ยืน เราเป็นคนไทย เช่นเดียวกับคนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยเหมือนกัน
แหล่งข่าวจากคนเสื้อแดง กล่าวถึงสาเหตุการเตรียมปิดพีซทีวีว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กสทช. ได้เรียกผู้บริหารช่องพีชทีวี ให้เดินทางไปยัง กสทช. โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงแผนผังรายการและชี้แจงว่าเนื้อหาบางรายการ เช่น รายการมองไกล ที่นายจตุพร เป็นผู้ดำเนินรายการนั้น ค่อนข้างรุนแรง และสร้างความไม่เข้าใจกันต่อสถานการณ์บ้านเมือง อีกทั้งยังมีเนื้อหาต่อว่า คสช.ด้วย ซึ่งทางกสทช.ระบุว่าจะทำการปิดช่องชั่วคราว เป็นเวลา7 วันระหว่างวันที่24-30 มี.ค.นี้ ก่อนจึงค่อยพิจารณาใหม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางทีมผู้บริหารช่องพีชทีวี กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาต่อรอง กับกสทช. อยู่ทั้งนี้นอกจากจะทำการปิด ช่องพีททีวีแล้ว ยังจะดำเนินการปิด ช่องทีวี24 และวอยซ์ทีวีด้วย